เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลล่าสุดชี้ ยอดการส่งออกของสหรัฐอเมริกาไปยังรัสเซีย ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลบารัค โอบามา จะประกาศคว่ำบาตรรัสเซียตั้งแต่เดือนมีนาคม จากข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลมอสโกพัวพันวิกฤตในยูเครน
สำนักงานสถิติการค้าแห่งชาติของสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลด้านการค้าต่างประเทศล่าสุดในวันจันทร์ (28) โดยระบุ มูลค่าการส่งออกสินค้าของสหรัฐฯไปยังรัสเซียได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาซึ่งเป็นเดือนล่าสุดที่มีการประมวลข้อมูลเสร็จสิ้น
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวที่ระบุ ยอดการส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯไปยังรัสเซียเพิ่มสูงขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่ายที่ก่อนหน้านี้ประเมินกันว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าจากเมืองลุงแซมไปยังแดนหมีขาวน่าจะลดฮวบ จากผลพวงของความขัดแย้งระหว่างวอชิงตันและมอสโกต่อวิกฤตในยูเครน
แม้ข้อมูลล่าสุดที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักงานสถิติการค้าแห่งชาติของสหรัฐฯ จะยังไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าการส่งออกไปยังรัสเซียว่าคิดเป็นกี่พันล้านดอลลาร์ แต่ยอดการส่งออกโดยรวมไปยังแดนหมีขาวที่เพิ่มขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์ถูกมองไม่ต่างจากการที่ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ถูก “ตบหน้าแบบฉาดใหญ่” จากนักธุรกิจภาคเอกชนในประเทศตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรของโอบามาต่อรัสเซียที่ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ “6 มีนาคม” นั้น ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการกดดันภาคธุรกิจอเมริกันให้ยอมปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในภาคธุรกิจพลังงาน เทคโนโลยี ตลอดจนสินค้าแฟชั่นหรูระดับไฮเอนด์ที่ต่างมียอดการส่งออกไปยังรัสเซียเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังโอบามาประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย
ด้าน โรเบิร์ต คาห์น นักวิจัยอาวุโสด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศจากองค์กร “Council on Foreign Relations” ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นว่า ภาคเอกชนอเมริกันมองมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของโอบามาว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” และเป็นความพยายามเพียงลำพังของโอบามาในการหาทางสกัดอิทธิพลของรัสเซียเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า บรรดานักธุรกิจอเมริกัน “ไม่เอาด้วย” กับความคิดของโอบามา และว่านักธุรกิจอเมริกันส่วนใหญ่ ยังคงเห็นความสำคัญของ “ผลประโยชน์ทางการค้า” มากกว่าที่จะใส่ใจกับการขยายอิทธิพลของรัสเซียในเวทีโลก
อย่างไรก็ดี คาห์นตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ยอดการส่งออกสินค้าอเมริกันไปยังรัสเซีย อาจเพิ่มสูงขึ้นเพราะบริษัทห้างร้านต่างๆในรัสเซียเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อสินค้าไปกักตุนในสต็อกของตนมากกว่าปกติ เพราะหวั่นเกรงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรในระยะยาว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่ทางทำเนียบขาวออกมาแถลงว่า รัฐบาลโอบามาเตรียมบังคับใช้ “มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่” ที่มีความเข้มข้นยิ่งกว่าเดิมต่อรัสเซียภายในสัปดาห์นี้ แม้จะถูกต่อต้านหนักจากบรรดาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง “โบอิ้ง” ที่มีรัสเซียเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุด