สหรัฐฯ ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมซัดรัสเซีย “ยิงขีปนาวุธเข้ายูเครน” - กรรมาธิการกลาโหมสภาดูมาเย้ย “แค่ภาพถ่ายพิสูจน์อะไรไม่ได้”

เอพี /เอเจนซีส์ - สหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวานนี้ (27) แสดงหลักฐานพิสูจน์ว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธและอาวุธสงครามหนักเข้าไปในยูเครนเพื่อสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนยูเครน แต่ฟรานซ์ คลินเซวิช (Franz Klintsevich) รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งรัฐสภาดูมาปัดข้อกล่าวหา และโต้ว่าภาพถ่ายเหล่านี้ไม่ได้รับการยืนยันจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม

ภาพถ่ายขาวดำจำนวน 4 ภาพที่ถ่ายในช่วงวันที่ 21-26 กรกฎาคมล่าสุดนี้ได้รับการเผยแพร่มาจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และเขียนบรรยายใต้ภาพโดยหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ เพื่อยืนยันคำกล่าวอ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ว่า รัสเซียได้เคลื่อนอาวุธหนักประชิดพรมแดนยูเครน ซึ่งทางรัสเซียปฏิเสธถึงการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครน

ในภาพถ่ายชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นถึงชายแดนยูเครน-รัสเซีย ที่คำบรรยายใต้ภาพกล่าวว่าเป็นผลจากการยิงขีปนาวุธ ที่มีผลกระทบจากการเกิดหลุมเพราะระเบิดขนาดใหญ่ฝั่งหนึ่ง และฝั่งตรงข้ามแสดงถึงการระเบิด

“การระเบิดจากการยิงขีปนาวุธหลายลูกปรากฏในพื้นที่บริเวณกว้างใกล้กับหน่วยที่ตั้งทหารของยูเครน” หนึ่งในคำบรรยายใต้ภาพระบุ

และอีกภาพอธิบายถึงปืนใหญ่อัตตาจร (Self-propelled artillery) ซึ่งเป็นพาหนะที่สามารถขับเคลื่อนตัวเองของรัสเซีย และติดตั้งปืนใหญ่ หรือเครื่องยิงจรวดสามารถเคลื่อนย้ายไปตามภูมิประเทศต่างๆ โดยมุ่งหน้าไปทางหน่วยทหารยูเครน และมีการแสดงภาพก่อนและหลังการยิงของกองกำลังยูเครนที่ได้รับรายงานว่ายิงออกมาเพื่อตอบโต้การเข้าโจมตีของปืนใหญ่อัตตาจรรัสเซีย โดยภาพนี้ถูกถ่ายในขณะที่มีความตรึงเครียดมากขึ้นระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนและกองกำลังแนชันแนลการ์ดของรัฐบาลเคียฟใกล้กับบริเวณจุดตกของMH17ในวันที่ 17 กรกฎาคม ที่มีคนจำนวน 298 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด

RT สื่อรัสเซียรายงานว่า ด้าน ฟรานซ์ คลินเซวิช ( Franz Klintsevich) รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งรัฐสภาดูมาโต้กลับผ่าน RIA Novosti สื่อรัสเซียในวันนี้ (28) ว่า “สหรัฐฯได้โกหกซึ่งหน้า” และชี้แจงว่า ภาพถ่ายดาวเทียมแค่ 4 รูปยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ารัสเซียใช้อาวุธโจมตียูเครน ในการที่ต้องการกล่าวหาเช่นนั้น ข้อมูลต้องได้รับการยืนยันจากแหล่งอื่นด้วยเช่นกัน “คำกล่าวหาของสหรัฐฯ สมัยนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลมาสนับสนุนอย่างเพียงพอ” และยังเสริมต่อว่าเขาไม่รู้เลยว่ารัสเซียใช้อาวุธสงครามยิงจากดินแดนของตนเองเข้าไปยังยูเครน

และในขณะที่มักมีข้อถกเถียงเรื่องขีปนาวุธและอาวุธหนักจากฝั่งยูเครนตกเข้ามาในดินแดนรัสเซียนับตั้งแต่เริ่มต้นหน้าร้อนที่ผ่านมา คลินเซวิชเผยว่า เพื่อนสมาชิกรัฐสภาดูมาต่างสนับสนุนให้มีการตอบโต้กลับไปยังกองกำลังยูเครนที่ใช้อาวุธมุ่งโจมตีรัสเซีย

ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (25) กองกำลังยูเครนได้ยิงกระสุนปืนใหญ่อย่างน้อย 45 ลูกมายังเป้าหมายในเขตรอสตอฟ (Rostov) ของรัสเซีย แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่พรมแดนรัสเซียเปิดเผย และเป็นผลทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหาย และต้องมีการอพยพชาวรัสเซียออกนอกพื้นที่เสี่ยง

และในวันอาทิตย์ (27) กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มผู้ตรวจสอบที่เดินทางเข้ามาตรวจกองกำลังรัสเซียตลอดแนวพรมแดนรัสเซีย-ยูเครน แต่ไม่พบการละเมิดแต่อย่างใด “กลุ่มผู้ตรวจสอบไม่พบการละเมิดของกองกำลังรัสเซียตลอดแนวพรมแดนติดยูเครน” กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงตอบโต้สหรัฐฯที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาว่า รัสเซียเคลื่อนกองกำลังร่วม 15,000 นายตลอดชายแดนติดยูเครน