เอเอฟพี - เกิดเหตุโจมตีรถขบวนรถเคลื่อนย้ายนักโทษทางตอนเหนือของกรุงแบกแดดวันนี้ (24 ก.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย ขณะที่บรรดานักการเมืองและนักการทูตต่างเร่งผลักดันความพยายามที่จะยุติวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีของอิรัก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองทาจิ ห่างออกไปทางตอนเหนือของแบกแดด 25 กิโลเมตร ขณะที่ผู้ถูกสังหารส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่อยู่การคุ้มครองของทีมคุ้มกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า นักโทษเหล่านั้นส่วนมากเป็นกลุ่มติดอาวุธสุหนีที่ต้องโทษก่อการร้าย
“เจ้าหน้าที่ตำรวจและนักโทษอย่างน้อย 60 คน ถูกสังหารในการโจมตีฆ่าตัวตาย ตามด้วยระเบิดแสวงเครื่องและการกราดยิง”
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงรายหนึ่งเผยว่า การเคลื่อนย้ายนักโทษครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันไว้ก่อน หลังจากเรือนจำทาจิถูกปืนครกยิงเข้าใส่เมื่อวานนี้ (16)
อย่างไรก็ตาม กรณีแวดล้อมที่แท้จริงของการโจมตียังไม่เป็นที่ชัดเจน เช่นเดียวกับจำนวนคนร้ายที่เสียชีวิต และข้อสงสัยที่ว่านักโทษที่พวกคนร้ายพยายามปล่อยตัวนั้นเสียชีวิตได้อย่างไร
เชื่อกันว่ารถบัสคันนี้น่าจะมีนักโทษโดยสารอยู่ราว 60 คน และคณะแพทย์ เผยว่าราว 50 คนที่ถูกสังหารในการโจมตีช่วงรุ่งสางเป็นผู้ต้องขัง และระบุเสริมว่า พวกเขาหลายคนถูกเผาจนไม่อาจจำแนกตัวตนได้
เมื่อไม่นานมานี้กองกำลังของรัฐบาลพึ่งถูกบรรดากลุ่มเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่าทำการประหารนักโทษมากกว่า 250 คน นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน
ในบรรดาข้อกล่าวหาดังกล่าว ประกอบด้วยเรื่องที่สมาชิกกองกำลังความมั่นคงอิรักยิงนักโทษ ฐานที่พวกเขาเข้าข้างกองกำลังจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่กำลังรุกคืบอยู่ในตอนนี้ ขณะเดียวกันก็มีการเผาเรือนจำและโยนระเบิดเข้าไปในห้องขัง
ตั้งแต่กลุ่มไอเอสเปิดฉากการจู่โจมอย่างกว้างขวางเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พวกเขาและกลุ่มพันธมิตรชาวสุหนีได้ตียึดเมือง โมซูล เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอิรักมาได้ พร้อมทั้งขยายวงบุกรุก 5 จังหวัดที่อยู่โดยรอบ และประกาศจัดตั้ง “คอลิฟะห์” ที่กินพื้นคร่อมพรมแดนอิรักและซีเรีย
การโจมตีดังกล่าวได้โหมกระพือเปลวเพลิงแห่งความตึงเครียดระหว่างชาวชีอะห์ที่เป็นคนส่วนใหญ่ในอิรักและชาวสุหนี่ที่เป็นคนส่วนน้อย ซึ่งเพียงแค่ในปีนี้ปีเดียวก็ได้สังเวยชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพัน