เอเอฟพี - ทหารอเมริกันเกือบ 500 นายที่ถูกส่งไปประจำการในอิรักจะใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเชและอากาศยานสอดแนมไร้อาวุธเพื่อคุ้มกันบุคลากรและทรัพย์สินของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงวานนี้(1)
เมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีคำสั่งให้ส่งทหารอเมริกันเพิ่มเติมอีก 200 นายไปยังกรุงแบกแดด เพื่อเสริมกำลังคุ้มกันนักการทูตและบุคลากรอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในสถานทูต ขณะที่กองกำลังอิรักกำลังเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ที่พยายามรุกคืบเข้าสู่เมืองหลวง
พล.ร.ต.จอห์น เคอร์บีย์ เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ระบุว่า กองกำลังเสริมเหล่านี้ยังรวมไปถึงทหารซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบอาปาเช และอากาศยานสอดแนมไร้อาวุธ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ยืนยันว่าอากาศยานไร้คนขับที่เอ่ยถึงไม่ใช่รุ่น “รีปเปอร์” หรือ “พรีเดเตอร์” แต่เป็นเพียงโดรนขนาดเล็กรุ่น “ชาโดว์” ที่จะต้องใช้ฐานส่ง
โดรน “ชาโดว์” ซึ่งถูกนำมาใช้บ่อยครั้งทั้งในอิรักและอัฟกานิสถาน มีความยาวประมาณ 4 เมตร และสามารถบินสอดแนมได้ที่ระดับความสูง 2,400 เมตร
เคอร์บีย์ระบุว่า กำลังเสริมที่ส่งเข้าไปจะ “ช่วยยกระดับการคุ้มกันต่ออาคาร บุคลากร และทรัพย์สินของสหรัฐฯ อีกทั้งยังช่วยให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ”
เขายืนยันด้วยว่า สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดดยังคงเปิดทำการอยู่
การส่งกำลังเสริมในครั้งนี้ทำให้จำนวนทหารอเมริกันที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในอิรักเพิ่มขึ้นเป็น 475 นาย
เคอร์บีย์ชี้ว่า ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโอบามาได้อนุมัติให้ส่งที่ปรึกษาทหารอเมริกัน 300 นายไปช่วยเหลือกองทัพแบกแดด และเวลานี้ที่ปรึกษาทหารราว 180 นายก็อยู่ระหว่างประเมินศักยภาพของกองกำลังอิรัก อย่างไรก็ดี เขาปฏิเสธที่จะยืนยันว่าท่าทีล่าสุดของวอชิงตันเป็นเพราะแบกแดดกำลังตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงยิ่งขึ้นหรือไม่
“สถานการณ์ในขณะนี้ยังอันตรายมาก และเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริง... แต่เราพบว่ากองกำลังความมั่นคงอิรักทั้งในและรอบๆ กรุงแบกแดดได้เร่งเสริมความแข็งแกร่ง และเตรียมพร้อมที่จะป้องกันเมืองหลวง”