xs
xsm
sm
md
lg

อาถรรพ์เลข 7 อีกแล้ว!?! เที่ยวบิน AH5017 สูญหายกลางอากาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - สายการบินแอร์แอลจีเรีย เผยขาดการติดต่อกับเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของตน หลังจากที่เครื่องบินลำดังกล่าวบินขึ้นจากสนามบินของเมืองหลวงประเทศบูร์กินาฟาโซ ได้เกือบหนึ่งชั่วโมง เพื่อเดินทางกลับสู่แอลจีเรียในวันนี้ (24 ก.ค.)

แหล่งข่าวจากสายการบินดังกล่าวบอกกับเอเอฟพีว่า เครื่องบินโดยสารลำที่ขาดการติดต่อไปเป็นเครื่องบินรุ่น แม็กโดเนล ดักลาส MD-9 ขณะที่รายชื่อของผู้โดยสารจำนวน 110 คนบนเที่ยวบินนี้ ประกอบด้วยคนหลากหลายสัญชาติ

แหล่งข่าวระบุว่า การติดต่อกับเครื่องบินลำนี้ขาดหายไปในช่วงที่กำลังอยู่ในน่านฟ้าของประเทศมาลี และกำลังจะเข้าสู่พรมแดนแอลจีเรีย

แม้จะมีกองกำลังจากนานาชาติยื่นมือเข้าช่วยเหลืออยู่ในตอนนี้ แต่สถานการณ์ในพื้นที่ทางเหนือของประเทศมาลีก็ยังคงไม่สงบ หลังจากถูกยึดครองโดยกลุ่มนักรบญิฮัดเป็นเวลาหลายเดือนในปี 2012

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลมาลีและบรรดากลุ่มติดอาวุธจากทางเหนือ ได้ทำการพูดคุยกันในกรุงแอลเจียร์ โดยมุ่งเป้าไปที่ประเด็นความมั่นคงและข้อตกลงสันติภาพ ในขณะที่หลายพื้นที่ในประเทศมาลีกำลังติดพันอยู่กับการสู้รบ

“เครื่องบินลำนี้อยู่ไม่ไกลจากชายแดนแอลจีเรีย ตอนที่ลูกเรือถูกขอให้เดินทางกลับเนื่องจากทัศนวิสัยเลวร้าย และเพื่อป้องกันไม่ให้ไปชนกับเครื่องบินอีกลำที่กำลังบินอยู่บนเส้นทาง แอลเจียร์ เมืองหลวงของแอลจีเรีย-บามาโก เมืองหลวงของมาลี แล้วสัญญาณการติดต่อก็ขาดหายไปหลังจากที่เปลี่ยนเส้นทาง” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ สายการบินแอร์แอลจีเรียได้ประกาศถึงการสูญหายไปของเที่ยวบิน AH5017 ลำนี้ ในคำแถลงที่ออกอากาศโดยสำนักข่าวเอพีเอส ซึ่งเป็นสำนักข่าวแห่งชาติของแอลจีเรีย

คำแถลงระบุว่า ระบบนำร่องทางอากาศได้ขาดการติดต่อกับเครื่องบินของแอร์แอลจีเรีย หลังจากบินขึ้นจากสนามบินได้ประมาณ 50 นาที โดยมีเส้นทางการบินจากกรุงวากาดูกู เมืองหลวงของฃบูร์กินาฟาโซ ไปยังจุดหมายปลายทางที่กรุงแอลเจียร์ เมืองหลวงของแอลจีเรีย ในวันนี้ (24 ก.ค.)

นอกจากนี้ คำแถลงยังระบุอีกว่า ทางสายการบินได้เริ่มใช้ “แผนฉุกเฉิน” ในการค้นหาเที่ยวบิน AH5017 ซึ่งปกติจะออกบินสัปดาห์ละ 4 เที่ยว แต่ละเที่ยวจะใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ แอลจีเรียเพิ่งประสบภัยพิบัติทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในตอนนั้นเครื่องบิน C-130 ของกองทัพที่มีผู้โดยสาร 78 คน ได้ประสบกับสภาวะอากาศที่เลวร้ายจนต้องตกลงพื้นที่ภูเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ราย

เครื่องบินของกองทัพลำนั้น ได้บินจากทามานราสเซต เมืองในทะเลทรายที่มีค่ายทหารประจำการ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของแอลจีเรีย เพื่อไปยังเมืองคอนสแตนติ ที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของกรุงแอลเจียร์ประมาณ 320 กิโลเมตร

นอกจากนี้ เมืองทามานราสเซต ยังเคยเกิดเหตุภัยพิบัติทางอากาศครั้งที่ร้ายแรงที่สุดตลอดกาลของประเทศนี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2003

อุบัติเหตุครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เครื่องบินโดยสารของแอร์แอลจีเรียตกในขณะที่กำลังจะบินขึ้น หลังจากที่เครื่องยนต์เกิดไฟลุกไหม้ ทำให้มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากผู้โดยสารทั้งหมด 103 คน ผู้รอดชีวิตรายนั้น ซึ่งเป็นทหารแอลจีเรียได้รับบาดเจ็บสาหัส

ล่าสุด มีการยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินดังกล่าว ว่าแท้จริงแล้วเป็นเครื่องบิน แมคโดเนล ดักลาส MD-83 ที่ทางแอร์แอลจีเรีย เช่ามาจากสายการบิน “สวิฟต์แอร์” ของสเปน ซึ่งนอกจากผู้โดยสารทั้ง 110 คนแล้ว ยังมีลูกเรือที่เป็นชาวสเปนอีก 6 ราย

ด้านสายการบินสวิฟต์แอร์ของสเปน ยืนยันว่า ขาดการติดต่อกับเที่ยวบินดังกล่าว ที่มีผู้โดยสาร 110 คนกับลูกเรือชาวสเปนอีก 6 คนเช่นกัน

สายการบินเอกชนของสเปนรายนี้ ประกาศไว้บนเว็บไซต์ว่า เที่ยวบินนี้ได้บินขึ้นจากบูร์กินาฟาโซ เมื่อเวลา 8.17 น. ตามเวลาประเทศไทย และตามกำหนดน่าจะไปถึงกรุงแอลเจียร์ในเวลา 12.10 น. แต่ก็ไปไม่ถึงจุดหมาย

ขณะที่เจ้าหน้าที่การบินของบูรกินาฟาโซ ระบุว่า พวกเขาได้ส่งต่อการดูแลเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับหอควบคุมการบินในกรุงนีอาเม เมืองหลวงของของประเทศไนเจอร์ ตอนเวลา 08.38 น. โดยสัญญาณการติดต่อครั้งสุดท้ายที่ได้รับเกิดขึ้นตอนเวลา 11.30 น.

นักการทูตรายหนึ่งในกรุงบามาโก ระบุว่า บริเวณทางเหนือของประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่เครื่องบินลำนี้บินผ่าน มีพายุทรายพัดรุนแรงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

อิซซา ซาลี ไมกา ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติของประเทศมาลี ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการค้นหาเครื่องบินลำนี้ที่สูญหายไป

เขาบอกกับรอยเตอร์ว่า ยังไม่รู้ว่าเครื่องบินลำนี้อยู่ในพื้นที่ของมาลีหรือไม่ เจ้าหน้าที่การบินกำลังระดมกำลังออกค้นหาในทุกประเทศที่คาดว่าน่าจะพบเครื่องบินลำนี้ ทั้งในบูร์กินาฟาโซ มาลี ไนเจอร์ แอลจีเรีย หรือแม้กระทั่งในสเปน

ทางด้าน เฟเดอริค คูลิวิเย รัฐมนตรีคมนาคมของฝรั่งเศส ระบุว่า น่าจะมีชาวฝรั่งเศสจำนวนมากโดยสารอยู่บนเที่ยวบินนี้ โดยทางฝรั่งเศสได้ตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่ “มิราจ 2000” จำนวน 2 ลำออกค้นหาเครื่องบินโดยสารที่หายไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่า บรรดาผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่สูญหายไปลำนี้ เป็นชาวฝรั่งเศส 50 ราย, บูร์กินาฟาโซ 24 ราย, เลบานอน 8 ราย, แอลจีเรีย 4 ราย, ลักเซมเบิร์ก 2 ราย, เบลเยียม 1 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย, ไนจีเรีย 1 ราย, แคเมอรูน 1 ราย, ยูเครน 1 ราย, โรมาเนีย 1 ราย

ขณะที่แหล่งข่าวในมาลี ระบุว่า การติดต่อกับเครื่องบิน MD-83 ขาดหายไปขณะที่เครื่องบินลำนี้กำลังบินอยู่เหนือแคว้นกาโอ ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศมาลี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยถูกยึดครองโดยบรรดากลุ่มนักรบญิฮัดเป็นเวลาหลายเดือนช่วงปี 2012
กำลังโหลดความคิดเห็น