xs
xsm
sm
md
lg

ทัพฟ้ามะกันจ่อส่ง 2 ดาวเทียมตรวจการณ์ หมายแกะรอยดาวเทียมชาติอื่น - เฝ้าระวัง “ภัยทางอวกาศ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(ภาพจากแฟ้ม) จรวดแอนทาเรส ของบริษัทออร์บิทัล ไซส์ คอร์ป ขณะเตรียมนำส่งยานขนเบียง ซิกนัส ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม
เอเอฟพี - เหล่าเจ้าหน้าที่อเมริกันระบุว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ จะส่งดาวเทียม 2 ดวงใหม่ขึ้นสู่วงโคจรวันนี้ (23 ก.ค.) เพื่อติดตามแกะรอยดาวเทียมของชาติอื่นๆ และรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับยานอวกาศของแดนอินทรี
(ภาพจากแฟ้ม) จรวด ฟอลคอน 9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ซึ่งบรรทุกอุปกรณ์สำหรับดาวเทียมสื่อสาร ออร์บคอมม์ ถูกส่งขึ้นจากศูนย์อวกาศ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ บนแหลมคานาเวอรัล เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม ที่ผ่านมา
ดาวเทียม 2 ดวงนี้มีกำหนดถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรระดับสูงเป็นครั้งแรก โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ถูกเก็บเป็นความลับทางราชการอย่างเข้มงวด ก่อนจะถูกเปิดเผยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน

ดาวเทียมทั้ง 2 ดวงจะถูกส่งขึ้นสู่วงโคจร โดยจรวด “เดลตา 4” จากศูนย์อวกาศของกองทัพอากาศ บนแหลมคานาเวอรัล มลรัฐฟลอริดา เพื่อขึ้นไปยังวงโคจรโลกสมวาร (geosynchronous belt) ซึ่งอยู่สูงขึ้นไปจากโลก 35,900 กิโลเมตร และเป็นจุดที่มีดาวเทียมอเมริกันดวงสำคัญๆ โคจรอยู่

พล.อ.วิลเลียม เชลตัน ผู้บังคับการการกองบัญชาการอวกาศกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ดาวเทียม 2 ดวงซึ่งมีหน้าที่สอดส่องพื้นที่โดยรอบ จะช่วยปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าของเราในวงโคจรค้างฟ้า (วงโคจรที่ในระดับสูง ซึ่งวัตถุที่ถูกส่งขึ้นไปจะปรากฏนิ่งในตำแหน่งเดิมตลอดเวลา) โดยดาวเทียมคู่นี้จะเฝ้าสังเกตเทคโนโลยีที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ร้าย ที่ชาติอื่นๆ อาจพยายามส่งขึ้นสู่ระบบวงโคจรที่สำคัญอย่างวงโคจรค้างฟ้า”

เชลตันล่าวว่า ดาวเทียมเหล่านี้จะช่วยให้กองทัพสหรัฐฯ เห็นภาพการจราจรดาวเทียมในวงโคจรโลกสมวารได้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น ขณะที่ดาวเทียมคู่ใหม่จะเข้าใกล้วงโคจรที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไป ยิ่งกว่าเดิม

ในปัจจุบัน ภารกิจเฝ้าระวังทางอวกาศกระทำจากพื้นโลก หรือจุดที่อยู่ต่ำกว่าวงโคจรโลกสมวาร แต่อยู่สูงกว่าพื้นโลกขึ้นไปเพียงไม่กี่ร้อยไมล์

โครงการดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า “โครงการเฝ้าระวังสถานการณ์ในวงโคจรโลกสมวาร” (Geosynchronous Space Situational Awareness Program หรือ GSSAP) ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนครั้งแรกเมือเดือนมีนาคม

เชลตันกล่าวว่า ตอนนี้กองทัพสหรัฐฯ พร้อมที่จะชี้แจงรายละเอียดของโครงการบางส่วน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการส่งสัญญาณให้ประเทศต่างๆ ที่วางแผนบ่อนทำลาย หรือสร้างความเสียหายให้แก่เครือข่ายดาวเทียมอเมริกันได้รู้ตัว”

นายพลผู้นี้กล่าวว่า การเปิดเผยโครงการนี้จะเป็นการ “ป้องปราม” และเตือนศัตรูว่า “คุณอาจลงมือได้ แต่ปกปิดไม่สำเร็จ”
พล.อ. วิลเลียม เชลตัน ผู้บังคับการการกองบัญชาการอวกาศกองทัพอากาศสหรัฐฯ
บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ต่างเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า จีนและชาติอื่นๆ อาจส่งอาวุธทางอวกาศ และอาวุธต่อต้านดาวเทียมขึ้นไปเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ระบบสื่อสารที่สนับสนุนอำนาจของกองทัพสหรัฐฯ

เชลตันระบุว่า ดาวเทียมดวงใหม่จะช่วยยกระดับศักยภาพในการตรวจจับศัตรูของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อดาวเทียมเตือนภัย และดาวเทียมที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในวงโคจรระดับสูง

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องคิดค้นดาวเทียมในอนาคต ที่จะสามารถทนต่อสภาพการณ์ที่อันตราย และสร้างความมั่นใจว่ายานอวกาศจะต้องมีกลไกเตือนภัยขีปนาวุธ และระบบสื่อสารที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

เชลตันกล่าวว่า “เราพบภัยคุกคามทางอวกาศมากมายมหาศาลในระดับความสูงใกล้กับวงโคจรโลกสมวาร พร้อมทั้งกล่าวว่า อวกาศไม่ใช่ “ที่หลบภัยอันสงบสุข” อีกต่อไป

เชลตันกล่าวว่า สหรัฐฯ มีสิทธิดำเนินยุทธวิธีป้องกันภัยคุกคามโดยรอบ และเฝ้าระวังภัยที่อาจส่งผลร้ายต่อดาวเทียม อย่างปลอดภัย”

อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดหมายว่า ดาวเทียม GSSAP คู่ใหม่จะสามารถรักษา “ระยะห่าง” ที่ปลอดภัยในการเก็บภาพวัตถุต้องสงสัยหรือเป็นภัยอันตราย

บริษัทผู้รับเหมา ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของโครงการนี้คือ “ออร์บิทัล ไซส์ คอร์ป” (Orbital Sciences Corp) แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังต้องเปิดเผยรายละเอียดของงบโครงการต่อไป
ศูนย์อวกาศของกองทัพอากาศ บนแหลมคานาเวอรัล มลรัฐฟลอริดา
กำลังโหลดความคิดเห็น