รอยเตอร์/เอเอฟพี - นายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนในวันจันทร์ (21 ก.ค.) ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซียที่บอกว่าเครื่องบินของเคียฟลำหนึ่ง กำลังบินอยู่ใกล้ๆ เที่ยวบิน MH17 เพียงไม่นานก่อนที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียลำนั้นจะร่วงโหม่งโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยันเครื่องบินทุกลำประจำการอยู่บนภาคพื้น การสาดโคลนกันไปมาขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาติในนั้นรวมถึงมอสโก มีมติประณามผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ในการตอบโต้ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมของรัสเซียก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ที่บอกว่าเครื่องบินทหารยูเครนลำหนึ่ง บินอยู่ภายในรัศมี 3 ถึง 5 กิโลเมตรของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ตอนที่มันร่วงโหม่งโลก นายโปโรเชนโกระบุ “ผมตอบได้ทันทีเลยว่า มันไม่เป็นความจริง”
ประธานาธิบดีรายนี้บอกว่า ยูเครนจะเปิดการสืบสวนเกี่ยวกับเครื่องบินของตนเอง และหากรัสเซียมีหลักฐานใดๆ สนับสนุนถ้อยแถลงกล่าวหาดังกล่าวก็ขอให้ส่งมอบมา พร้อมกันนั้นนายเปโรเชนโก ยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ เพราะในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ น่านฟ้าทางตะวันออกของยูเครน กำลังถูกจับตาโดยระบบตรวจตราต่างๆ นานา “ทุกคนรู้ดีว่าในตอนที่เกิดโศกนาฏกรรมนั้น เครื่องบินยูเครนทุกลำประจำการอยู่บนภาคพื้น (ในพื้นที่)” เขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
คำสัมภาษณ์ตอบโต้คำกล่าวหาของมอสโกของนายโปโรเชนโก มีขึ้นในขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันจันทร์ (21) ยกมืออย่างเป็นเอกฉันท์เห็นชอบมติประณามเหตุยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย และเรียกร้องขอคณะผู้ตรวจสอบเข้าถึงจุดเกิดเหตุในดินแดนที่ยึดครองโดยฝ่ายกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน
ออสเตรเลีย เป็นผู้นำในการร่างมติดังกล่าว และผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หลังจากมีการปรับแก้เนื้อหาบางส่วนจนเป็นที่พอใจของรัสเซีย นอกจากนี้แล้วมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้มีการสืบสวนนานาชาติอย่างเต็มที่และเป็นอิสระ พร้อมกับนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ขบวนรถไฟที่ขนศพเกือบทั้งหมดจากเหยื่อโศกนาฏกรรรมเที่ยวบิน MH17 เกือบ 300 ศพ ออกจากพื้นที่เกิดเหตุแล้วในวันจันทร์ (21) หลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย บรรลุข้อตกลงกับผู้นำของพวกแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งควบคุมพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีราจิบ ราซัค ยังบอกด้วยว่าได้รับคำยืนยันจากพวกกบฏว่าจะมอบกล่องดำของเครื่องบิน ซึ่งอาจมีข้อมูลของอุบัติเหตุครั้งนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่มาเลเซีย บ่งชี้ว่าเขาติดต่อกับฝ่ายแบกแยกดินแดนที่ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคตะวันออกยูเครน โดยไม่ผ่านรัฐบาลเคียฟ
ด้านนายนายมาร์ก รูตต์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เผยว่า รถไฟขบวนที่ขนศพเหยื่อเที่ยวบิน MH17 เวลานี้กำลังเคลื่อนผ่านดินแดนที่ยึดครองโดยฝ่ายกบฏ และจะใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมงสำหรับเดินทางไปถึงคาร์คิฟ เมืองที่รัฐบาลควบคุมอยู่
นายรูตต์เล่าว่า ในที่สุดรถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีโตเรซ ใกล้กับเครื่องบินโบอิ้ง777ตก ตอนประมาณ 16.00 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.) ก่อนจะแล่นผ่านเมืองโดเนตสก์ที่กบฏควบคุมอยู่ไปยังปลายทางคาร์คิฟ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญนานาชาติได้จัดตั้งศูนย์ความร่วมมือเพื่อคอยรับร่างไร้วิญญาณของเหยื่อ
นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์บอกว่า มีร่างไร้วิญญาณอยู่บนขบวนรถไฟราว 200 ศพ แต่ยังจำเป็นต้องมีการรับที่เมืองคาร์คิฟอีกที “โดเนตสก์ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ และรถไฟมีจุดมุ่งหมายจากโดเนตสก์สู่คาร์คิฟ”
ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่าพวกกบฏปฏิบัติอย่างไม่เคารพต่อร่างไร้วิญญาณของเหยื่อ ซึ่งในนั้นรวมถึงชาวเนเธอร์แลนด์ 193 คน แต่นายรุตต์ ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ด้วยบอกว่าแนวทางในการจัดการกับศพ ดูเหมือนว่าจะระมัดระวังมากกว่าที่คิดไว้ พร้อมอธิบายขั้นตอนต่อว่าหลังจากศพถูกส่งมาถึงเมืองคาร์คิฟด้วยรถไฟแล้ว ก็จะมีการชันสูตรเบื้องต้น จากนั้นก็นำขึ้นเครื่องบินลำเลียงสู่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งรับหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป
