เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดเตรียมสาบานตนในวันพุธ (16) รับตำแหน่งผู้นำซีเรียต่ออีกสมัยท่ามกลางภาวะสงครามกลางเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อก้าวเข้าสู่ขวบปีที่ 4 และคร่าชีวิตชาวซีเรียไปแล้วมากกว่า 170,000 คน ขณะที่อีกหลายล้านชีวิตต้องกลายสภาพเป็น “ผู้ลี้ภัย”
อัสซาดในวัย 48 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีแห่งซีเรียต่อจาก “ฮาเฟซ” บิดาของเขา ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2000 จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอีก 1 สมัยเป็นระยะเวลา 7 ปี หลังจากชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา
การสาบานตนรับตำแหน่งอีกสมัยของอัสซาด มีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่โลกตะวันตก โดยเฉพาะชาติในยุโรป รวมถึงประเทศในโลกอาหรับกำลัง “เปลี่ยนท่าที” จากเดิมที่มีจุดยืนต้องการโค่นล้มระบอบการปกครองของอัสซาดอย่างแข็งขัน มาสู่ท่าทีในปัจจุบันที่เริ่มยอมรับความจริงแล้วว่า “ระบอบอัสซาด” ถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคตะวันออกกลาง “น้อยกว่า” บรรดากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงของพวกอิสลามิสต์ ที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลอย่างเต็มกำลังในเวลานี้ โดยเฉพาะในกรณีของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียที่สร้าง “ความหวาดกลัว” แพร่กระจายไปทั่วโลก
ซามีร์ นาชาร์ แกนนำอาวุโสของ“แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย” หนึ่งในองค์กรเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ออกมายอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลางกำลังแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และในเวลานี้ดูเหมือนโลกทั้งใบกำลังจับจ้องให้ความสนใจต่อการแผ่ขยายอิทธิพลของกลุ่มไอเอส ตลอดจนปัญหาในอิรักและอียิปต์ มากกว่าปัญหาความไร้เสถียรภาพและชะตากรรมของชาวซีเรีย
“ดูเหมือนประชาคมโลกจะไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ในตอนนี้พวกเขาควรให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาใดในภูมิภาคตะวันออกกลางก่อน ระหว่างภัยคุกคามของกลุ่มไอเอส ความวุ่นวายในอิรัก หรือสถานการณ์ทางการเมืองในอียิปต์” นาชาร์กล่าว
ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางออกมาให้ความเห็นว่า การพุ่งทะยานขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ของอิทธิพลของพวกนักรบอิสลามิสต์ กลายเป็น “ของขวัญกล่องใหญ่” สำหรับผู้นำซีเรียอย่าง บาชาร์ อัล-อัสซาด เนื่องจากอัสซาดได้ “โอกาสทอง” ในการพิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าระบอบการปกครองของเขามีความ “เป็นพิษเป็นภัย” ต่อสันติภาพและความสงบสุขของโลกน้อยกว่าพวกนักรบมุสลิมสุดโต่ง
“พวกนักรบอิสลามิสต์ได้ช่วยเหลือระบอบการปกครองของอัสซาดโดยไม่รู้ตัว เพราะในเวลานี้โลกตะวันตกได้ตระหนักแล้วว่า ระบอบอัสซาดมิใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่พวกอิสลามิสต์ติดอาวุธต่างหากที่เลวร้ายยิ่งกว่า” แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผย
ทั้งนี้ รายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตน อัสซาดจะประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในทันที โดยเป็นที่คาดกันว่าตัวเต็งในตำแหน่งนี้ คือ วาเอล อัล-ฮัลกี ที่ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการเมืองคนสำคัญของผู้นำซีเรียและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนยุทธศาสตร์การสู้รบกับพวกกบฏในช่วงที่ผ่านมา