เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กลุ่มติดอาวุธ “ฮิซบอลเลาะห์” แห่งเลบานอน ประกาศกร้าวในวันจันทร์ (21) ไม่มีแผนถอนนักรบของตนออกจากแผ่นดินซีเรีย โดยระบุ ยังมีความจำเป็นต้องช่วยรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในการปกป้องชีวิตประชาชนซีเรียจากภัยคุกคามของพวก “นักรบอิสลามิสต์”
ฮัสซัน ฟัดลัลเลาะห์ สมาชิกรัฐสภาเลบานอนจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ออกโรงให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเลบานอนโดยยืนยัน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ไม่มีแผนถอนตัวออกจากการสู้รบในซีเรียแต่อย่างใด ถึงแม้ในเวลานี้จะมีความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งและผลักดันให้เกิดการ “เจรจาสันติภาพ” เพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อเข้าสู่ขวบปีที่ 4 และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 170,000 คน
“เรายังมีภาระสำคัญในการช่วยรัฐบาลซีเรียปกป้องประชาชนของตนจากภัยคุกคามของพวกอิสลามิสต์ที่กำลังรุกคืบเข้าสู่เมืองและหมู่บ้านต่างๆของซีเรียอย่างไม่ลดละ และการปกป้องชาวซีเรียนี้ถือเป็นภารกิจที่มิอาจรั้งรอได้” ฟัดลัลเลาะห์กล่าว พร้อมย้ำว่า พวกนักรบอิสลามิสต์สุดโต่งที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลอยู่ในซีเรียและอิรักเวลานี้ ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่อเลบานอนด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม เซย์เอ็ด ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ เลขาธิการใหญ่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หนึ่งในองค์กรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของฝ่ายมุสลิมชีอะห์ ออกมายืนยันถึงความจำเป็นที่กลุ่มของตนยังไม่อาจถอนตัวจากสงครามในซีเรียได้ โดยระบุ เลบานอนจะตกเป็นเป้าการโจมตีจากพวกอิสลามิสต์ หากกลุ่มของตนไม่เข้าไปต่อกรกับพวกสุดโต่งเหล่านี้ในซีเรีย ที่มีแผนบ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวม
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัฐบาลซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จากเลบานอนเป็นฝ่ายได้เปรียบในการสู้รบเหนือพวกนักรบอิสลามิสต์ โดยสามารถยึดคืนพื้นที่หลายแห่งที่ตกอยู่ใต้การยึดครองของพวกนักรบมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงดังกล่าว