เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดการปะทะกันรอบใหม่ระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลกับนักรบฝ่ายกบฏชนเผ่าทัวเร็กทางภาคเหนือของมาลีเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน ขณะที่อดีตเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสประกาศยกเลิกการใช้ปฏิบัติการทางทหารทางภาคเหนือของมาลีอย่างสิ้นเชิง
การสู้รบอย่างดุเดือดรอบล่าสุดระหว่างทหารรัฐบาลมาลีกับกลุ่มกบฏชนเผ่าทัวเร็กที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ (11) นั้น เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่จะมีการเปิดฉากเจรจาสันติภาพระหว่างผู้แทนทั้งสองฝ่ายที่ประเทศแอลจีเรีย ในวันพุธที่ 16 กรกฎาคมนี้
ในอีกด้านหนึ่ง ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศส ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (13) โดยระบุ รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ตัดสินใจปรับโครงสร้างกองกำลังทหารฝรั่งเศสที่ประจำการอยู่ในตอนเหนือของทวีปแอฟริกาเสียใหม่
แผนปรับโครงสร้างดังกล่าว ส่งผลให้ฝรั่งเศสจะต้องยกเลิกแผนยุทธศาสตร์เดิมที่มีการทุ่มเทสรรพกำลังทางทหารของตนไปในเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือของมาลี โดยจะมีการจัดสรรอัตรากำลังใหม่เพื่อให้กำลังพลจากกองทัพแดนน้ำหอม สามารถกระจายไปปฏิบัติภารกิจในภูมิภาคอื่นๆของแอฟริกาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามของพวกนักรบหัวรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกอย่าง “อัลกออิดะห์”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศสยอมรับว่า ภายใต้แผนดังกล่าวฝรั่งเศสจะลดจำนวนกำลังทหารของตนในภาคเหนือของมาลีให้เหลือเพียง 1,000 นายจากเดิมที่มีทหารฝรั่งเศสอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 3,000 นาย
