เอเอฟพี - มาเลเซียออกมาให้คำมั่นวันนี้ (1 ก.ค.) ว่าจะ “สอบสวน” นักการทูตคนหนึ่ง “โดยละเอียด” ภายหลังที่เขาอ้างเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต เพื่อหลบหนีข้อหาล่วงละเมิดทางเพศในนิวซีแลนด์
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม มูฮัมหมัด ไรซัลมัน อิสมาอิล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารถูกศาลนิวซีแลนด์ตั้งข้อหาลักทรัพย์ และใช้กำลังประทุษร้ายด้วยเจตนาที่จะชำเรา
กระนั้น การดำเนินคดีต้องหยุดชะงักลงเมื่อเขาใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต และยังมีรายงานว่า เขาไม่ยอมตัวอย่างผลดีเอ็นให้เจ้าหน้าที่อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวหาว่า นักการทูตชายผู้นี้ถูกจับกุมได้ที่กรุงเวลลิงตัน หลังลอบตามหญิงสาววัย 21 ปีไปถึงบ้านแล้วทำร้ายร่างกายเธอในคืนวันที่ 9 พฤษภาคม
อานิฟะห์ อามัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เขาเดินทางกลับไปมาเลเซีย โดยตอนนี้เขากำลังถูกกระทรวงกลาโหมเสือเหลืองสอบสวน
อานีฟะห์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “รัฐบาลมาเลเซียทราบดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องอันตรายร้ายแรง และเราไม่ได้มีเจตนาปิดบังเรื่องนี้แต่อย่างใด”
“ผมได้กล่าวอย่างชัดเจนมากว่า จะต้องมีการสืบสวนคดีนี้โดยละเอียด”
ก่อนหน้านี้ นิวซีแลนด์ได้แถลงว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้ปฏิเสธที่จะสละเอกสิทธิ์ทางการทูต
อย่างไรก็ดี อานิฟะห์ กล่าวว่า มาเลเซียได้เตรียมการสละความคุ้มครองทางการทูตแล้ว แต่นิวซีแลนด์เป็นฝ่ายเสนอให้ผู้ต้องหาเดินทางกลับมาเลเซีย
อานิฟะห์ กล่าวว่า กำลังประเมินสภาพจิตใจของ มูฮัมหมัด ไรซัลมัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเวลลิงตันมาเป็นเวลาหนึ่งปี และเป็นครั้งแรกที่เขาดำรงตำแหน่งในต่างแดน
อานิฟะห์ ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่นักการทูตชายวัย 38 ปี ซึ่งสมรสแล้วผู้นี้ อาจถูกส่งตัวกลับไปยังนิวซีแลนด์ หากกรุงเวลลิงตันไม่พอใจกับขั้นตอนการสืบสวน เนื่องจากทั้งสองประเทศ “มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน”
เขากล่าวว่า “ผมจะพิจารณาเรื่องส่งตัวเขากลับไป ... หากจำเป็น”
เขาระบุว่า นักการทูตผู้นี้อาจถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องบทลงโทษที่เขาอาจได้รับ หรือขั้นตอนการสืบสวนจะใช้เวลานานเท่าไร
เขาชี้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของมาเลเซียกำลังร่วมมือกับนิวซีแลนด์เพื่อหาหลักฐานในคดีนี้
ทั้งนี้ มาเลเซียมีสถานเอกอัครราชทูตอันโอ่โถงตั้งอยู่ในย่านบรูกลิน ชานกรุงเวลลิงตัน ซึ่งเป็นจุดที่นักการทูตผู้นี้การก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงสาว
เมอร์เรย์ แมคคัลลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ กล่าวว่า เขาได้เชิญเอกอัครราชทูตมาเลเซียมาพบวานนี้ (30 มิ.ย.) เพื่อชี้แจงว่า เวลลิงตันมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรงเพียงใด
เขากล่าวว่า ได้อธิบายให้ข้าหลวงใหญ่ (เอกอัครราชทูตมาเลเซีย) รอสมีดาห์ ซอฮิด ซึ่งเป็นนักการทูตระดับอาวุโสได้เข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า หากไม่มีการดำเนินคดีกับชายคนนี้ ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบตามมา
วานนี้ (30) นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ ได้ออกมาแสดงความรู้สึกในทำนองเดียวกัน โดยระบุว่า ประเทศของเขาต้องการให้สละเอกสิทธิ์ความคุ้มครองทางการทูต เพื่อให้นิวซีแลนด์สามารถเอาผิดกับนักการทูตชายผู้นี้ มิฉะนั้น เขาก็ควรถูกดำเนินคดีที่ประเทศบ้านเกิดของตนเอง
มาเลเซียคือประเทศคู่ค้าของนิวซีแลนด์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับแปด โดยสินค้าสำคัญที่แดนกีวีส่งออกให้มาเลเซียคืออาหาร และเครื่องดื่ม ส่วนสินค้าที่นิวซีแลนด์นำเข้าจากกัวลาลัมเปอร์เป็นส่วนใหญ่คือ น้ำมันปิโตรเลียมและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์