เอเอฟพี - เปิดปูมกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (ISIL) ที่เป็นหัวหอกบุกยึดพื้นที่กว้างขวางทางเหนือและตะวันตกของอิรัก ซึ่งบัดนี้ได้ประกาศจัดตั้งรัฐอิสลาม ที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) รวมทั้งอ้างฐานะการเป็นผู้นำของชาวมุสลิมทั่วโลก
กลุ่ม”รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ (Islamic State of Iraq and the Levant ใช้อักษรย่อว่า ISIL กลุ่มนี้ยังเรียกขานกันในชื่อ “รัฐอิสลามแห่งอิรักและอัล-ชาม” Islamic State of Iraq and al-Sham ใช้อักษรย่อว่า ISIS ด้วย) เป็นที่รู้จักจากการใช้ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต และมือระเบิดฆ่าตัวตายโดยก่อเหตุบ่อยครั้งในอิรัก อีกทั้งเป็นกลุ่มที่รบราได้อย่างคู่คี่ที่สุดกับกองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในซีเรีย
กระนั้น กลุ่มนี้เพิ่งเป็นที่สนใจอย่างจริงจังของทั่วโลกในเดือนมิถุนายนนี้เอง เมื่อเหล่านักรบของ ISIL และนักรบจากกลุ่มกองกำลังอาวุธฝ่ายสุหนี่กลุ่มอื่นๆ รวมพลังเข้ายึดโมซุล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตลอดจนทั้งพื้นที่หลายๆ ส่วนใน 5 จังหวัดทางเหนือและตะวันตกของอิรัก
ISIL มีผู้นำคือ อบู บาคร์ อัล-บักดาดี พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากนักรบญิฮัดหลายพันคนในซีเรียและอิรัก ซึ่งในจำนวนนี้มีชาวตะวันตกอยู่จำนวนมาก และดูเหมือนขณะนี้กลายเป็นกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ที่อันตรายที่สุดในโลกแซงหน้าเครือข่ายอัล-กออิดะห์เป็นที่เรียบร้อย
ISIL แสดงความมั่นใจเกินร้อยด้วยการประกาศความเป็นผู้นำเหนือชาวมุสลิมทั่วโลก โดยในคลิปเสียงที่เผยแพร่ทางออนไลน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) อบู โมฮัมหมัด อัล-อัดนานี โฆษกของ ISIL ประกาศว่า บักดาดีคือ “คอลีฟะห์” หรือผู้นำสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก
“สภาชูรอแห่งรัฐอิสลามได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นคอลีฟะห์ และขอประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามที่มีคอลีฟะห์เป็นผู้ปกครองชาวมุสลิมทั้งหลาย” อัดนานีแถลง พร้อมกับระบุว่า “บักดาดี ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของนักรบญิฮัด ได้รับการแต่งตั้งเป็นคอลีฟะห์ของมวลชนมุสลิม”
อัดนานีขยายความต่อไปว่า บักดาดียอมรับการสวามิภักดิ์ และได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองชาวมุสลิมทุกแห่ง โดยจะเป็นที่รู้จักในนาม “คอลีฟะห์อิบรอฮีม” ซึ่งเป็นชื่อจริงของเขา
“หลังจากนี้ คำว่า อิรักและเลแวนต์ จะถูกลบออกจากชื่อรัฐอิสลามในเอกสารทางการ” อัดนานี ระบุ
“รัฐคอลีฟะห์ถือเป็นความฝันในหัวใจชาวมุสลิมทุกคน และเป็นความหวังของบรรดานักรบญิฮัด”
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของศาสดามูฮัมมัด ก็มีการแต่งตั้งคอลีฟะห์ หรือ “กาหลิบ” ขึ้นเป็นผู้นำศรัทธาชนชาวมุสลิม
หลังจากยุค 4 คอลีฟะห์ที่ปกครองดินแดนมุสลิมต่อจากศาสดามูฮัมหมัดแล้ว รัฐอิสลามก็เข้าสู่ช่วงการปกครองของราชวงศ์อุมัยยะฮ์ (ค.ศ.661-750) และราชวงศ์อับบาซียะฮ์ (ค.ศ.750-1517) ก่อนที่ระบบคอลีฟะห์จะสิ้นสุดไปพร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมันในปี 1924
พวกรัฐบาลตะวันตกนั้นหวั่นเกรงว่า ในที่สุดแล้ว ISIL จะเดินตามรอยอัล-กออิดะห์ และก่อการโจมตีในประเทศต่างๆ ทว่าสิ่งที่ชวนให้หวาดวิตกมากกว่าด้วยซ้ำ ก็คือ การที่กลุ่มนี้สามารถยึดครองพื้นที่กว้างขวางในอิรัก ตลอดจนแนวโน้มที่พวกนักรบต่างชาติที่เป็นสมาชิกของ ISIL และ บักดาดี จะหวนกลับไปก่อการร้ายในบ้านเกิดของพวกเขา
ดังกรณีของ เมห์ดี เนมมูเช หนุ่มฝรั่งเศสวัย 29 ปีที่ถูกกล่าวหากราดยิงพิพิธภัณฑ์ยิวในเบลเยียมหลังจากไปร่วมรบอยู่กับ ISIL ในซีเรียหนึ่งปีเต็ม
ซูฟาน กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาในนิวยอร์กประเมินว่า มีนักรบต่างชาติ 12,000 คนเดินทางไปร่วมการสงครามในซีเรีย ในจำนวนนี้เป็นชาวตะวันตก 3,000 คน ซึ่ง ISIL ดูจะเป็นเป้าหมายที่ดึงดูดใจมากที่สุด โดยศาสตราจารย์ปีเตอร์ นิวแมนน์ จากคิงส์ คอลเลจ กรุงลอนดอน ประเมินว่า 80% ของนักรบตะวันตกในซีเรียเป็นสมาชิกกลุ่มนี้
ISIL ต่างจากกบฏกลุ่มอื่นๆ ในซีเรียตรงที่มีเป้าหมายที่จะก่อตั้งรัฐอิสลาม รวมทั้งตั้งเงื่อนไขในการเข้าเป็นสมาชิกต่ำกว่ากลุ่มอัล-นุสรา ซึ่งเป็นเครือข่ายของอัล-กออิดะห์ในซีเรีย
ISIL พยายามดึงดูดไม่เฉพาะคนอาหรับ เห็นได้จากการจัดทำนิตยสารภาษาอังกฤษ ออกมาเผยแพร่ และก่อนหน้านี้ยังพยายามเผยแพร่คลิปวิดีโอภาษาอังกฤษ หรือมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ
นักรบญิฮัดกลุ่มนี้อ้างว่า มีนักรบจากอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และยุโรปชาติอื่นๆ รวมถึงอเมริกา โลกอาหรับ และคนผิวขาวเชื้อชาติต่างๆ เข้าร่วม
แรงดึงดูดสำคัญนั้นมาจากตัว บักดาดี เอง ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นผู้บัญชาการและนักยุทธวิธีในสนามรบผู้ช่ำชอง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับไอย์มาน อัล-ซาวาฮีรี ผู้นำอัล-กออิดะห์คนปัจจุบัน
“บักดาดีมีผลงานน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง ทั้งยึดเมืองได้มากมาย ระดมคนจำนวนมาก เขาสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยมทั่วอิรักและซีเรีย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณชอบลุย ก็ต้องไปอยู่กับบักดาดี” ริชาร์ด บาร์เรตต์ อดีตหัวหน้าฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของหน่วยงานข่าวกรองต่างประเทศ MI6 ของอังกฤษ ระบุ
ในจังหวะเวลาที่ บักดาดีเข้าควบคุมกลุ่มที่เวลานั้นยังใช้ชื่อว่า “รัฐอิสลามแห่งอิรัก” หรือ ISL เมื่อเดือนพฤษภาคม 2010 นั้น ดูเหมือนกลุ่มนี้จวนเจียนจะล่มสลายอยู่แล้ว หลังจากถูกโจมตีอย่างดุเดือดจากกองกำลังทหารอเมริกันที่ผนึกกับชนเผ่าสุหนี่ที่จงรักภักดีต่อประเทศอิรัก
แต่แล้ว ISIL กลับฟื้นคืนชีพและขยายเข้าสู่ซีเรียในปี 2013 มีรายงานว่า บักดาดี เคยพยายามผนวกกับกลุ่มอัล-นุสรา แต่ถูกปฏิเสธ นับจากนั้นเป็นต้นมาทั้งสองกลุ่มก็แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง