เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทางการมาเลเซียเผยในวันพฤหัสบดี (26) โดยระบุ ได้รับข้อมูลข่าวกรองที่ยืนยันว่า พบพลเมืองมาเลเซียอย่างน้อย 15 คนเสียชีวิตจากการสู้รบในแผ่นดินซีเรีย หลังจากเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงของพวกมุสลิมสุหนี่ที่เรียกตัวเองว่า “รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสถาปนารัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในอิรักและซีเรีย
คาหลิด อาบู บาการ์ ผู้ตรวจราชการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ออกมาเปิดเผยที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยยอมรับว่า ได้รับข้อมูลข่าวกรองที่เชื่อถือได้ ตลอดจน รายงานของเอกอัครราชทูตซีเรียประจำองค์การสหประชาชาติ ซึ่งระบุตรงกันว่า มีพลเมืองชายชาวมาเลเซียอย่างน้อย 15 คน ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าว ถูกสังหารในซีเรียเมื่อช่วงกลางเดือนนี้ หลังทำการสู้รบกับทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
อย่างไรก็ดี คาหลิด อาบู บาการ์ยืนยันว่าจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข่าวกรองดังกล่าวอีกครั้ง และย้ำว่ารัฐบาลมาเลเซียจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางสกัดกั้นมิให้มีพลเมืองของตนเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อไปร่วมรบกับกลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวอีก โดยขู่จะกวาดล้างเครือข่ายของพวกมุสลิมสุดโต่งในแดนเสือเหลืองให้สิ้นซาก
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (24) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการอินโดนีเซีย เพิ่งออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า มีพลเมืองแดนอิเหนาอย่างน้อย 56 คน เดินทางไปยังอิรักเพื่อเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” หรือ “ISIL”
โดยพล.ต.อ. สุตาร์มัน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย เป็นผู้ที่ออกมายืนยัน ว่ามีข้อมูลการข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งบ่งชี้ว่า ขณะนี้มีพลเมืองอินโดนีเซียจำนวนอย่างน้อย 56 คนได้เดินทางออกจากประเทศ และมีจุดหมายปลายทางอยู่ในอิรักและซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธ ISIL ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจอินโดนีเซียระบุว่า นอกเหนือจากข้อมูลข่าวกรองของทางการแดนอิเหนาแล้ว รัฐบาลจาการ์ตายังได้รับแจ้งจากรัฐบาลซีเรีย รวมถึงหน่วยงานด้านการข่าวของออสเตรเลีย ซึ่งต่างยืนยันข้อมูลที่ตรงกันว่า พบการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวของชายชาวอินโดนีเซียซึ่งมีอายุระหว่าง 20-30 ปี จำนวนอย่างน้อย 56 ราย โดยคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในเมือง “สุราการ์ตา” ในจังหวัดชวากลาง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า พลเมืองแดนอิเหนากลุ่มดังกล่าวใช้วิธียื่นเรื่องขอเดินทางออกนอกประเทศ โดยอ้างตัวว่าเป็นนักศึกษาหรือเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรให้ความช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรม เพื่อปกปิดจุดมุ่งหมายที่แท้จริงในการไปร่วมรบกับกลุ่มหัวรุนแรง ISIL
