เอเอฟพี - ประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซียซึ่งเป็นชาติที่มีพลเมืองมุสลิมมากที่สุดในโลก ออกมาแถลงประณามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ว่า “สร้างความด่างพร้อย” ต่อศาสนา พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำมุสลิมทั่วโลกผนึกกำลังต่อต้านลัทธิหัวรุนแรง วันนี้(21)
ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน ชี้ว่า การสังหารหมู่พลเรือนผู้บริสุทธิ์และพฤติกรรมป่าเถื่อนของกลุ่มไอเอสขณะที่พวกเขาบุกยึดพื้นที่กว้างขวางในอิรักและซีเรีย เป็นสิ่งที่น่าตกใจ
“นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง และสถานการณ์ก็ชักจะควบคุมไม่อยู่แล้ว” ผู้นำอิเหนาให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน เพียง 1 วันหลังจากที่ไอเอสเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกภาพนักรบปกปิดใบหน้าผู้หนึ่งฆ่าตัดหัว เจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน
“เรารับไม่ได้ต่อพฤติกรรมเหล่านี้ และจะไม่ยินยอมให้ ISIS เข้ามาในอินโดนีเซีย” ยุทโธโยโนกล่าว โดยอ้างชื่อกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (ISIS) ซึ่งเป็นชื่อเดิมของไอเอส
ประธานาธิบดีอิเหนาระบุด้วยว่า “อินโดนีเซียไม่ใช่รัฐอิสลาม เราให้เกียรติต่อทุกๆ ศาสนา”
ยุทโธโยโนเรียกร้องให้ผู้นำประเทศต่างๆ ร่วมกันขจัดลัทธิหัวรุนแรงให้หมดไป พร้อมชี้ว่าการกระทำของไอเอสไม่เพียง “น่าอับอาย” แต่ยังสร้างความ “อัปยศอดสู” ต่ออิสลามอีกด้วย
“นี่เป็นสัญญาณเตือนครั้งใหม่ต่อผู้นำทั่วโลก รวมถึงบรรดาผู้นำมุสลิมด้วย” ดิ ออสเตรเลียน อ้างคำพูดของผู้นำอินโดนีเซีย
“รัฐบาลทุกประเทศควรพิจารณาว่าจะหาทางต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงอย่างไร ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์เสียใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่ตะวันตกมีต่ออิสลาม หรือมุมมองที่อิสลามมีต่อตะวันตก”
อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากถึง 225 ล้านคนเผชิญปัญหาการก่อการร้ายที่เรื้อรังมานาน แต่ความสำเร็จของรัฐบาลในการปราบปรามกลุ่มก่อความไม่สงบในช่วงไม่กี่ปีมานี้ช่วยให้เหตุโจมตีรุนแรงลดน้อยลงมาก
รัฐบาลจาการ์ตาประเมินว่า มีพลเมืองอินโดนีเซียหลายสิบคนเดินทางไปร่วมต่อสู้ในอิรัก และซีเรีย ซึ่ง ยุทโธโยโน ก็เป็นห่วงว่าคนเหล่านี้อาจจะถูกบ่มเพาะแนวคิดสุดโต่ง และกลับมาก่อเหตุร้ายในบ้านเกิด
ผู้นำอิเหนายืนยันว่า ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการระบาดของแนวคิดอิสลามแบบสุดโต่งในหมู่เกาะอินโดนีเซีย
“ประชาชนของเราในอินโดนีเซียกำลังรับสารจาก ISIS ซึ่งมีแนวคิดแบบสุดโต่งเจือปนอยู่ด้วย” ยุทโธโยโน ซึ่งปกครองประเทศมานานถึง 10 ปี และกำลังจะหมดวาระลงในเดือนตุลาคมนี้กล่าว
“ปรัชญาของ ISIS ขัดแย้งกับค่านิยมพื้นฐานที่เราชาวอินโดนีเซียยึดถือกัน วันศุกร์ที่แล้ว (16) ระหว่างที่ผมมีถ้อยแถลงต่อประชาชนทั้งประเทศ ผมขอให้ชาวอินโดนีเซียปฏิเสธกลุ่ม ISIS และหยุดเผยแพร่ค่านิยมแบบสุดโต่งของพวกเขา”
“รัฐบาลของผมและหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ใช้มาตรการเด็ดเดี่ยวที่จะปิดกั้นไม่ให้ ISIS แผ่ลามเข้ามายังอินโดนีเซีย รวมถึงห้ามไม่ให้ชาวอินโดนีเซียไปเป็นสมาชิกหรือร่วมต่อสู้กับ ISIS และปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่แนวคิดดังกล่าวด้วย”