เอเอฟพี - สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในกรุงปารีส เปิดตัวจุดท่องเที่ยวใหม่ที่สร้างมาจากภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชั่น "ราทาทูอี" ทำให้สวนสนุกแห่งนี้ทำสถิติใช้งบประมาณลงทุนสูงสุดในยุโรป
ผู้ที่เข้ามาเยือน "ราทาทูอี ดิ แอดเวนเจอร์" จะถูกทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังตัวเล็กลงไปเท่ากับเจ้าหนูนักทำอาหารในการ์ตูนของดิสนีย์ วิ่งวนไปทั่วห้องครัวขนาดยักษ์พร้อมกับถูกไล่ล่าโดยคู่แค้นจากในการ์ตูน "เชฟ สกินเนอร์"
เมื่อผู้เล่นขึ้นนั่งบนรถ "แรท โมบาย" พวกเขาก็จะได้กระโจนเข้าไปพบกับความเย็นของตู้เย็นขนาดใหญ่ เผชิญหน้ากับปลาที่มีความยาว 7.5 เมตร พร้อมด้วยแฮมที่มีน้ำหนักเป็นตัน โชคยังดีที่เตาอบไม่ใช่ของจริง
ดิสนีย์ยุโรปใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 150 ล้านยูโร (ประมาณ 6,500 ล้านบาท) กับจุดท่องเที่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผจญภัยของ "เรมี่" ตัวละครของค่ายหนังพิกซาร์ ซึ่งเป็นหนูที่โดดเด่นในเรื่องของการดมกลิ่น จนทำให้ในท้ายที่สุดได้กลายเป็นพ่อครัวในร้านอาหารชั้นนำแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
บริเวณด้านนอกของจุดท่องเที่ยวดังกล่าว ทางสวนสนุกได้สรรค์สร้างให้เป็นย่านชุมชนในสไตล์ของชาวปารีส พร้อมด้วยร้านอาหาร "บิสโทร เชซ เรมี่" ที่มีความจุขนาด 370 ที่นั่ง ซึ่งแน่นอนว่าในร้านนี้จะต้องเสิร์ฟ "ราทาทูอี" เป็นอาหารหลัก
ทุนสร้างมหาศาลจนถูกบันทึกไว้เป็นสถิติ
ด้วยเวลาที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการนี้มา 5 ปี จุดท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้เตรียมที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 10 กรกฎาคมที่กำลังจะมาถึง ด้านค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนั้นถูกบันทึกเป็นสถิติของยุโรป ด้วยตัวเลขรวมทั้งหมดกว่า 200 ล้านยูโร ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้นอีก 200 ตำแหน่ง จากแรงงานทั้งหมดของดิสนีย์ในปารีสที่มีกว่า 15,000 คน
"ยูโร ดิสนีย์" บริษัทที่เป็นเจ้าของสวนสนุกแห่งนี้คาดหวังไว้ว่าจุดท่องเที่ยวใหม่นี้จะช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของดิสนีย์แลนปารีสให้ดีขึ้นมาได้
"ยูโร ดิสนีย์" ต้องพยายามอย่างหนักมาโดยตลอดนับตั้งแต่เริ่มกิจการสวนสนุกแห่งนี้ เพื่อที่จะสร้างผลกำไรให้ได้ โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขามีกำไรคือปี 2008 แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ทางบริษัทก็ยังมองว่าสวนสนุกที่มีอายุยาวนานกว่า 20 ปีแห่งนี้ มีความสำคัญในแง่ของการสร้างแบรนด์ดิสนีย์
โซฟี ฮูเบอร์สัน กรรมการผู้จัดการของสมาคมแห่งชาติด้านวัฒนธรรม ความบันเทิงและกิจกรรมยามว่าง (SNELAC) ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทางดิสนีย์ยอมเสี่ยงสร้างจุดท่องเที่ยวใหม่โดยที่ไม่ได้ทดลองทำกับสวนสนุกในสหรัฐอเมริกาเสียก่อน
ดิสนีย์แลนด์ปารีสยังคงเป็นสถานที่ชั่นนำของยุโรป ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวกำลังลดน้อยลงกว่าที่เคยมี โดยในปีที่แล้วมีผู้มาเยือนสวนสนุกแห่งนี้ลดลงประมาณ 1 ล้าน ทำให้มีตัวเลขผู้มาเที่ยวรวมแล้วน้อยกว่า 15 ล้านราย
วงจรแห่งความรุ่งเรือง
นี่ไม่ใช่สวนสนุกแห่งเดียวในยุโรปที่ทุ่มทุนมหาศาลในปี 2014 ยังมีการใช้เงินกว่า 500 ล้านยูโร ซึ่งเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีก่อนในสวนสนุกหลายแห่ง ทั้งในรูปแบบของจุดท่องเที่ยวและการแสดงโชว์รูปแบบต่างๆ ในยุโรปปีนี้ จากข้อมูลอ้างอิงของสมาคมธุรกิจสวนสนุกนานาชาติ (IAAPA)
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สวนสนุกยูโรป้าพาร์คของเยอรมัน ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรปรองจากดิสนีย์แลนด์และมีผู้มาเยือนเกือบ 5 ล้านคนปีที่แล้ว ได้เปิดให้บริการจุดท่องเที่ยวในร่มที่ใหญ่ที่สุดที่มีชื่อว่า "เดอะ คิงดอม ออฟ เดอะ มินิมอย อาร์เธอร์" ที่ร่วมสร้างโดยผู้กำกับภาพยนต์ชาวฝรั่งเศส "ลุค เบอช็อง"
สวนสนุก "ปุย ดู โฟ เมอดิวัล" ในเมืองวองเด แถบตะวันตกของฝรั่งเศส ก็ได้มีการลงทุนไป 20 ล้านยูโรในปีนี้สำหรับเครื่องเล่นชิ้นใหม่ รวมถึงมีการปรับปรุงและสร้างโรงแรมระดับสี่ดาว นับว่าเป็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับในปี 2013
"นี่ไม่ใช่การแข่งกันติดอาวุธ" โดมินิก ฮัมเมล บอสใหญ่ของสวนสนุก ฟิตูโอสโคพ บอกกับนักข่าวเอเอฟพี สวนสนุกของเขาตั้งอยู่ใกล้กับเมืองพัวติเย ทางตอนกลางของฝรั่งเศส โดยในปีนี้มีการใช้จ่ายเงินไป 6 ล้านยูโรกับเครื่องเล่นไทม์แมชชีน ที่ได้เปิดให้บริการไปแล้ว ก่อนเข้าสู่ช่วงคริสต์มาสปีที่ผ่านมา
ยุโรปมีสวนสนุกรวมกันแล้วกว่า 300 แห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันและสเปน สวนสนุกเหล่านี้ต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาเที่ยวประมาณ 150 ล้านคน
ฮูเบอร์สัน ระบุว่า นวัตกรรมคือสิ่งที่จำเป็นต่อการดึงดูดคนที่ยังลังเลใจให้เข้ามาเที่ยวมากขึ้น จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลงทุนเพื่อจะได้รักษาผลประกอบการที่มีกำไรเอาไว้ คาดได้ว่าสวนสนุกแต่ละแห่งน่าจะใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 8 - 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ในแต่ละปี มันคือวงจรแห่งความรุ่งเรือง การลงทุนจะช่วยเพิ่มจำนวนสินค้า ทำให้สามารถรองรับความต้องการได้มากขึ้นและยาวนานขึ้นในระหว่างที่นักท่องเที่ยวมาเยือน
