ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้าคดีฆ่า และเผาคารถซีอาร์วี พบผู้ตายเป็นนักธุรกิจใหญ่ และอดีตนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดสตูล ส่วนคนร้ายตำรวจจับได้ยกทีม เป็นฝีมือของกิ๊กสาวอดีตนางงามหลายเวที วางแผนร่วมกับเพื่อนชายคนสนิทแค้นที่ตีตัวออกห่างจึงลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์
จากรณีชาวบ้านพบศพถูกฆ่า และเผาภายในรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กค 468 สตูล ในป่าสวนยางพื้นที่บ้านคลองเข้าร้อน หมู่ 8 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อช่วงเช่าที่ผ่านมา
วันนี้ (10 พ.ค.) ล่าสุด พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พร้อมชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา และชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบคลี่คลายคดีนี้ และทราบว่าผู้ตายคือ นายกัมโพช เอี๋ยวสกุล อายุ 61 ปี หรือโกโพช นักธุรกิจชื่อดังของ จ.สตูล เจ้าของบริษัทกำพลก่อสร้าง และโรงอิฐโชคชัย และเป็นอดีตประธานสภาเทศบาลเมืองสตูล จากการชันสูตรศพพบว่า ถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.38 เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ก่อนที่คนร้ายจะนำไปเผาทั้งคนทั้งรถ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม และญาติได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ หลังจากที่เดินทางจากสตูลมาที่สงขลา
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้อง และใช้เวลาไม่ทันข้ามวัน ก็สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุก่อได้ทันทียกทีม คือ น.ส.บุษกร สักแก้ว อายุ 24 ปี กิ๊กสาวที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ตาย และอดีตนางงามหลายเวที และนายณัฐวุฒิ เก้าเอี้ยน หรือเอ็ม อายุ 24 ปี เพื่อนชายคนสนิท
และจากการสอบสวนทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่าร่วมกันวางแผนฆ่า นายกัมโพช โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา น.ส.บุษกร ได้โทรศัพท์ให้ นายกัมโพช ขับรถซีอาร์วีมารับที่ อ.รัตภูมิ โดย น.ส.บุษกร อาสาเป็นคนขับให้ แต่ระหว่างทางได้แวะรับ นายณัฐวุฒ มือปืนขึ้นรถ โดยทำทีว่ารถจักรยานยนต์เสีย และผ่านมาพบกันโดยบังเอิญ และเป็นเพื่อนกันจึงช่วยเหลือ แต่เมื่อ นายณัฐวุฒิ ขึ้นรถได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด.38 จ่อยิง นายกัมโพช จากด้านหลังจนเสียชีวิตคารถ จากนั้นจึงได้นำรถไปทิ้งไว้ในป่าสวนยางห่างจากถนนยนตรการกำธรสายรัตภูมิ-สตูล ประมาณ 1 กิโลเมตร และปลดสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ ไอแพด และโทรศัพท์มือถือแยกย้ายกันหลบหนี
และจากการสอบสวน นายณัฐวุฒิ ยังให้การว่า ในวันที่ 8 พฤษภาคม หลังจากที่ได้ฆ่าและนำศพพร้อมรถไปหมกสวนยาง ในคืนวันที่ 9 พฤษภาคม ได้ย้อนกลับไปใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดีอีกครั้งเพราะได้ค้นหาข้อมูลตัวอย่างคดีฆ่า และอำพรางคดีจากอินเทอร์เน็ต และพบว่าส่วนใหญ่เมื่อฆ่าแล้วต้องจุดไฟเผาด้วยเพื่อทำลายหลักฐาน
โดยหลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ป่าหลังศาลาอเนกประสงค์หมู่ 1 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ ซึ่งให้การว่าได้นำอาวุธปืน และสร้อยคอทองคำไปฝังดินไว้ ปรากฏว่าพบหลักฐานสำคัญทั้ง 2 อย่าง โดยอาวุธปืนขนาด.38 ถูกนำไปฝังไว้ใต้โคนต้นไม้ใหญ่โดยใส่ไว้ในถุงพลาสติก และชุบน้ำมันป้องกันสนิมอย่างดี ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองถูกฝังไว้ใต้โคนต้นไม้ในบริเวณเดียวกัน รวมทั้งยังพบร่องรอยการเผาทำลายชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุด้วย
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.บุษกร ให้การว่า ต้องการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากระยะหลังความสัมพันธ์เริ่มร้าวฉาน และโกโพช พยายามตีตัวออกห่าง โดยก่อนหน้านี้ เคยทำงานอยู่ที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างของโกโพช ด้วย และโกโพช ยังเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้ น.ส.บุษกร ตระเวนเข้าประกวดนางงามในหลายเวที และเคยชนะเลิศการประกวดหลายครั้ง ในวันเกิดเหตุ น.ส.บุษกร จึงวางแผนร่วมกับ นายณัฐวุฒิ ล่อลวงให้มารับ และลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมก่อนเผาศพอำพรางคดี ที่สำคัญ น.ส.บุษกร กับ นายณัฐวุฒิ มือปืนนั้นเคยคบหากันมาก่อนสมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.รัตภูมิ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และควบคุมตัวดำเนินคดี ทั้งนี้หลังการจับกุมญาติของโกโพช ได้เดินทางมาดูผู้ต้องหาทั้ง 2 คนโดยญาติคนหนึ่งได้ตบหน้า น.ส.บุษกร ด้วยความโกรธแค้น