ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ภูเก็ต รวบสาวใหญ่ทำทีขอเช่ารถแล้วเชิดหนีขายต่อบ่อนการพนันประเทศเพื่อนบ้าน บางรายโดนขู่เรียกค่าไถ่รถ ภูเก็ตโดนไปถึง 52 คัน
วานนี้ (4 พ.ค.) พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล ได้จับกุม นางสุกัญญา จันทนารักษ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 244/16 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย ตามหมายจับที่ จ.625/2555 โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านทองแห่งหนึ่ง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากถูกจับกุมได้มีเจ้าของรถยนต์จากเต็นท์รถเช่าต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาดูตัว ซึ่งผู้ต้องหายังมีอีกหลายหมายศาลของ สภ.ฉลอง สภ.เมืองภูเก็ต สภ.ถลาง เป็นต้น
พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา นางสุกัญญา ได้ไปหลอกเช่ารถยนต์ที่มีราคาแพงตามเต็นท์รถเช่าตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีอาร์วี รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค และรถยนต์เก๋งรุ่นต่างๆ โดยทำทีมาเช่าเป็นเวลา 1 เดือน ให้ราคา 20,000-70,000 บาท โดยมี น.ส.สุภาลักษณ์ ครุฑมณี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/38 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นผู้ค้ำประกัน หลังเช่าไปแล้วไม่มีการส่งคืน แต่จะนำรถยนต์คันที่เช่าส่งขายต่อทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน หรือบางรายยังถูกผู้ต้องหาโทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่โดยตรง หากต้องการอยากได้รถยนต์คืนต้องโอนเงินเข้าบัญชีเท่านั้นเมื่อโอนเงินแล้วต้องไปจ่ายเงินค่าไถ่จากคนที่ผู้ต้องหานำรถยนต์ไปจำนำไว้อีกต่างหาก ซึ่งบางเต็นท์ต้องสูญเสียรถไปกว่า 10 คัน เนื่องจากผู้ต้องหาทำตีสนิทเข้าไปเช่าเป็นประจำ ก่อนที่จะขอเช่าเป็นรายเดือนอ้างทำธุรกิจหลายอย่าง หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้เข้าไปเช่ารถวันเว้นวัน หลังจากเช่าเสร็จก็ได้เชิดรถหนีไป หรือโทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่เจ้าของรถอีกที
พ.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนเองมารับตำแหน่งสารวัตรสืบสวน สภ.เชิงทะเล ได้เปิดดูคดีค้างเก่าต่างๆ ทุกคดี ซึ่งในครั้งนี้ตนเองได้ลงมาจากสถานีตำรวจเพื่อเดินทางไปยังร้านทองฝั่งตรงข้ามโรงพัก และเห็น นางสุกัญญา จันทนารักษ์ อายุ 40 ปี ยืนอยู่ภายในร้าน ท่าทางมีพิรุธ จึงขอเชิญตัวมายังสถานีตำรวจเพื่อตรวจสอบประวัติ ปรากฏว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้จับกุม และสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งมีหมายจับในคดีลักทรัพย์เฉพาะใน สภ.เชิงทะเล จำนวน 5 คดี และที่ สภ.เมืองภูเก็ต ถลาง ฉลอง กะทู้ อีกหลายคดี และรวมรถยนต์ที่ถูก นางสุกัญญา เชิดไปถึง 52 คัน ในรอบ 3 ปี
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จะนำเงินที่ได้จากการจำนำสร้อยคอทองคำไปเช่ารถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ตามที่มีใบสั่งมาแต่ไม่ทันได้ไปเช่าจนมาถูกจับกุมเสียก่อน และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่ยังไม่ชัดทอดเพื่อนที่ร่วมแก๊ง ซึ่งมั่นใจว่าผู้ต้องหาทำงานกันเป็นทีม โดย นางสุกัญญา ออกทำการเช่ารถยนต์ทั่วจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียงทั้งรายวัน รายอาทิตย์ และเช่าระยะยาว 1 เดือน เมื่อเช่าไปแล้วจะไม่ยอมส่งคืน จากนั้นก็จะนำไปจำนำไว้ในบ่อนการพนัน เมื่อเจ้าของรถเช่าโทร.ไปหาเพื่อให้ส่งรถคืนก็จะปิดเครื่องโทรศัพท์หนี หรือบางครั้งแก๊งดังกล่าวจะโทร.มาหาเจ้าของรถเช่าเรียกค่าไถ่รถว่า หากต้องการรถกลับคืนก็ให้โอนเงินใส่บัญชีธนาคารตามที่ผู้เช่าบอก หากไม่โอนก็จะนำรถไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง จนล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามรถจากการติดระบบจีพีเอส และยึดรถมาได้ 16 คัน เหลืออีก 36 คัน โดยทราบว่ารถในส่วนที่ยึดได้เตรียมนำลงไปขายที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะเร่งไล่ผู้ต้องหาอีกรายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
นางขวัญใจ แก้วโสภาค เจ้าของรถเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงทะเล กล่าวว่า ถูกนางสุกัญญามาเช่ารถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วในราคาเดือนละ 2 หมื่นบาท ที่ให้เช่าเพราะเคยมาเช่าหลายครั้งแล้ว จากนั้นประมาณ 10 กว่าวัน นางสุกัญญา ได้โทรศัพท์มาเรียกค่าไถ่โดยบอกว่าหากอยากได้รถคืนให้นำเงิน 5 แสนบาทมาไถ่รถคืน โดยให้นำเงินไปให้ที่ห้างแห่งหนึ่ง หลังได้เงินแล้วให้ไปรับของที่ จ.กระบี่ แต่ตนไม่ได้จ่ายเงินให้ และได้ไปแจ้งความดำเนินคดี จากนั้น นางสุกัญญาไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย
ด้าน นางรัตนา วรนุช เจ้าของรถเช่าหาดสุรินทร์ อ.ถลาง กล่าวว่า ถูกนางสุกัญญา มาเช่ารถยนต์ฟอร์จูนเนอร์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา 2 เดือนแรกจ่ายเงินดีแต่ เดือนที่ 3 ก็หายไปเลยจนถึงขณะนี้ และที่เดือดร้อนที่สุดเพราะได้นำเงินก้อนสุดท้ายไปดาวน์รถยนต์คันนี้มาเพื่อให้นักท่องเที่ยวเช่าเป็นรายได้ให้ครอบครัวแต่ออกรถมาได้ 3 เดือน แต่ถูกนางสุกัญญา หลอกไปเสีย ตนและครอบครัวมาซวยซ้ำอีกถูกบริษัทรถฟ้องดำเนินคดี เพราะตนไม่มีเงินส่งค่าผ่อนรถมาเป็นปีกว่าแล้ว ตอนนี้ต้องประกาศขายบ้านเพื่อนำเงินไปจ่ายค่ารถไม่อย่างนั้นต้องถูกยึดบ้านแน่นอน จึงดีใจที่ทราบว่า เจ้าหน้าที่จับนางสุกัญญาได้ทำให้มีความหวังว่าจะทราบว่ารถอยู่ที่ใด และอาจจะได้รถคืน อย่างไรก็ตาม หลังจากจับกุมผู้ต้องได้แล้ว ทางผู้ประกอบการรถเช่าก็ได้มอบช่อดอกไม้ให้แก่ พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล เพื่อขอบคุณที่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ในที่สุด