ตรัง - ออกหมายจับแล้ว 5 ผู้ต้องหา คดีอ้างเป็นตำรวจ ป.ป.ส. อุ้มเสี่ยบ่อกุ้ง-บ้านจัดสรร พร้อมน้องชายไปรีดเงินค่าไถ่ 15 ล้าน แต่ยังคงหลบหนีอยู่ทั้งหมด ด้าน ผบก.ภว.ตรัง ยันไม่เป็นมวยล้ม
จากกรณีที่เมื่อเช้าวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายชุดดำ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ใช้กำลังอุ้มตัว นายชาลี รักแก้ว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.4 ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง นักธุรกิจบ่อกุ้ง เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและขายฝาก พร้อมกับน้องชาย คือ นายปรีชา รักแก้ว อายุ 39 ปี ก่อนนำขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไปยัง จ.นครศรีธรรมราช แล้วต่อมาได้ปล่อยตัวน้องชายกลับมาเพื่อนำเงินไปไถ่ตัว นายชาลี จำนวน 15 ล้านบาท ก่อนต่อรองเหลือ 5 ล้านบาท พร้อมกับทองคำ 50 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้เงินสด และทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาทแล้ว ก็ได้ยอมปล่อยตัว นายชาลี กลับคืนมาสู่ครอบครัว แต่หลังจากรอดตายมาเจ้าตัวและครอบครัวก็ยังหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตรายซ้ำอีก จึงเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กาญจนเนตร ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมกับเข้าร้องเรียนต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ต้องสั่งการให้ชุดสอบสวนสืบสวน ออกตามล่าตัวทีมอุ้มเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย และพยาน พร้อมทั้งนำภาพผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบกับแฟ้มภาพอาชญากร ทำให้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 5 คน คือ นายบุญนาค กิจการนา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่145/1 ม.1 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล นายชุติภาส ศรสุด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/38 ม.4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายถาวร นาศรี อายุ 47 ปีอยู่บ้านเลขที่ 106/3 ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง
นายประยุทธ กิจการนา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/36 ซ.1 รังสิต ต.ประชาธิปัติย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนายณรงค์ มูสิกศิลปะ อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 63/2 ม.1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี จึงยังคงสามารถหลบหนีได้อยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการวางแผนเพื่อบุกเข้าปิดล้อมจับกุมมาหลายครั้งแล้ว แต่ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ยืนยันว่า จะพยายามติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมาให้ได้ และคดีนี้จะไม่เป็นมวยล้มอย่างเด็ดขาด