แพทย์ไร้พรมแดนเตือน “ไวรัสอีโบลา” ในแอฟริกาตะวันตกระบาดหนักถึงขั้น “คุมไม่อยู่”

เอเอฟพี - องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เตือนว่าการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกรุนแรงถึงขั้น “ควบคุมไม่อยู่” แล้ว โดยล่าสุดพบพื้นที่แพร่ระบาดหนักถึง 60 จุด

“การระบาดของเชื้ออีโบลาในเวลานี้รุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งในเชิงการแพร่กระจายตามภูมิศาสตร์ จำนวนผู้ติดเชื้อ และยอดผู้เสียชีวิต” เอ็มเอสเอฟ แถลงวานนี้ (23 มิ.ย.)

การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสอีโบลา ซึ่งร้อยละ 90 ของกรณีที่พบทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตาย กลายเป็นภาระหนักอึ้งสำหรับองค์กรบรรเทาทุกข์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งยังสร้างความหวาดกลัวต่อชาวบ้านในชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อ

“การระบาดรุนแรงจนควบคุมไม่ได้แล้ว” บาร์ต แจนส์เซนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของเอ็มเอสเอฟ เผย

“เรายังพบผู้ติดเชื้อในสถานที่ใหม่ๆ ทั้งในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ”

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อมรณะชนิดนี้พุ่งสูงถึง 337 รายใน 3 ประเทศ นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่กินีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ไวรัสซึ่งยังไม่มีทางรักษานี้สามารถติดต่อผ่านของเหลวในร่างกาย ไม่เว้นแม้กระทั่ง “เหงื่อ” ซึ่งหมายความว่า เพียงแค่สัมผัสร่างกายผู้ป่วยก็ทำให้ติดเชื้อได้

เอ็มเอสเอฟเรียกร้องให้รัฐบาลชาติต่างๆ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์มาช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา

“เจ้าหน้าที่ของเราปฏิบัติภารกิจเต็มกำลังแล้ว... เราไม่สามารถส่งทีมแพทย์ออกไปดูแลผู้ป่วยในพื้นที่แพร่ระบาดใหม่ๆ ได้อีก” เอ็มเอสเอฟยอมรับ

ไวรัสอีโบลาสามารถทำให้ผู้ติดเชื้ออาการทรุดหนักภายในไม่กี่วัน โดยจะมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย อาเจียน และท้องร่วง บางกรณีอาจทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวและเลือดออกไม่หยุด

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ไวรัสอีโบลาแพร่กระจายอย่างกว้างขวางทั่วภูมิภาค โดย เอ็มเอสเอฟ สามารถยืนยันจุดแพร่ระบาดหนักได้แล้วกว่า 60 แห่ง

“อีโบลาไม่ใช่ปัญหาสุขภาพเฉพาะในกินีอีกต่อไป มันกำลังส่งผลกระทบไปทั่วทั้งแอฟริกาตะวันตก” แจนส์เซนส์ กล่าวเตือน