เอเอฟพี - เซียร์ราลีโอนออกมายืนวันนี้(27 พ.ค.) ว่าพบผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาเป็นรายแรกของประเทศแล้ว และแถลงว่าได้มีจำกัดการเดินทางในบางพื้นที่ เพื่อยุติการแพร่ระบาดของไวรัสไข้เลือดออก ที่กำลังระบาดในแอฟริกาตะวันตก และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากมาย
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสุขอนามัย ไมแอตตา คาร์กโบ เตือนประชาชนให้ระแวดระวัง และ ย้ำอีกครั้งถึงคำสั่งห้ามเดินทางไปร่วมพิธีศพที่กินี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคในแอฟริกาตะวันตก
ไคลาอุน (Kailahun) พื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ เป็นที่แรกที่มีการยืนยันกรณีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลา และ เคเนมา ก็เป็นอีกที่ที่ทางการเล็งเห็นว่ามีความเสี่ยงสูง และได้ถูกจำกัดการเดินทางแล้วด้วยเช่นกัน
"ขณะนี้ทางกระทรวงได้ยกระดับมาตรการจากระดับเตรียมพร้อมไปสู่การตอบสนองแล้ว และได้มีกระบวนการจัดการปัญหาอย่างเฉพาะเจาะจง" คาร์กโบ บอกในสื่อมวลชน
"เราเริ่มพบแล้วว่า การติดเชื้อกรณีแรกๆของประเทศ เกิดจากผู้ที่เดินทางไปร่วมพิธีศพในกินี"
บริมา คาร์กโบ ประธานฝ่ายแพทย์ กล่าวว่า เหยื่อเชื้ออีโบลารายแรกเป็นสตรีที่ประกอบอาชีพหมอแผนโบราณ ที่เดินทางไปร่วมงานศพในประเทศเพื่อนบ้านมา
ไวรัสไข้เลือดออกที่มีอัตราเสียชีวิตสูงและยังไม่มีหนทางรักษานี้ เริ่มแพร่ระบาดในกินีเมื่อเดือนมกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 81 คน และยังระบาดในไลบีเรียอีกด้วย
อะมารา แจมไบ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเซียร์ราลีโอน กล่าวว่า คนไข้ที่มีอาการท้องร่วงและอาเจียนอย่างหนักได้ถูกส่งเข้ารักษาตัวในศูนย์อนามัยชุมชนโกอินดูที่อยู่ทางภูมิภาคชิดเขตแดนทางใต้ของกินีแล้ว
รายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และ 1 ใน 4 มีการยืนยันแล้วว่าเสียชีวิตเพราะเชื้ออีโบลา ส่วนอีก 5 คน กำลังตอบสนองต่อการรักษา
"สาเหตุการตายของอีก 3 คนกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ" เขากล่าว
ทั้งนี้ โรคอีโบลาเป็นหนึ่งในโรคที่คล้ายๆกันไม่กี่ชนิด ที่ทำให้เกิดอาการ อาเจียน ท้องร่วง เจ็บปวดที่กล้ามเนื้อ ในกรณีร้ายแรงจะทำให้อวัยวะทำงานบกพร่อง และตกเลือดภายในชนิดที่ไม่สามารถหยุดได้
โรคนี้สามารถติดต่อกันผ่านทางเลือดและของเหลวในร่างกาย รวมถึงการสัมผัสกับศพหรือสัตว์ที่ติดเชื้อซึ่งเป็นพาหะของโรค