สื่อเผยอียูจ่อชะลอลงนามกระชับความสัมพันธ์ไทย-ทบทวนความร่วมมือหลังรัฐประหาร

รอยเตอร์ - รอยเตอร์อ้างร่างเอกสารที่พบเห็นในวันพุธ (18 มิ.ย.) ระบุสหภาพยุโรปจะชะลอการลงนามข้อตกกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นขึ้นกับไทย และเรียกร้องให้ประเทศแห่งนี้คืยนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว ตามหลังการรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก เข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ประกาศคืนความสงบเรียบร้อยและผลักดันปฏิรูป ตามหลัง 6 เดือนแห่งความยุ่งเหยิงทางการเมือง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างร่างเอกสารที่คาดหมายว่าทางเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจะให้การรับรองในวันจันทร์หน้า (23) ระบุว่าทางสหภาพยุโรปจะระงับการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างกัน และเหล่าชาติสมาชิกจะไม่ลงนามในกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (Partnership and Cooperation Agreement - PCA) กับไทย จนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

“ส่วนข้อตกลงอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบตามความเหมาะสม ด้วยชาติสมาชิกอียูได้เริ่มทบทวนความร่วมมือทางทหารกับไทยแล้ว” ร่างเอกสารระบุ อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่ามันยังต้องผ่านการพิจารณาของเจ้าหน้าที่อียูและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

กรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ผ่านการรับรอง โดยมันจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การจ้างงาน การศึกษา ปัญหาผู้อพยพ การขนส่งและสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับเปิดทางพูดคุยเจรจาทางการเมืองใกล้ชิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีจะได้รับผลกระทบหรือไม่

จากข้อมูลของยุโรปพบว่าการค้าระหว่างอียูกับไทยในปี 2013 มีมูลค่าราว 32,000 ล้านยูโร (1.4ล้านล้านบาท)

รอยเตอร์รายงานต่อว่า ในร่างคำแถลงบอกว่าทางอียูจะกำหนดให้ความสัมพันธ์กับไทยอยู่ภายใต้การทบทวนและจะพิจารณามาตรการที่เป็นไปได้อื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่กับกรณีแวดล้อม “มีเพียงโรดแมปสำหรับคืนสู่รัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือ รวมถึงการจัดเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมเท่านั้น ที่จะทำให้อียู ยังคงให้การสนับสนุนต่อไป”

“อียูเรียกร้องให้คณะทหารไทยคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญโดยเร่งด่วน ผ่านการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือและครอบคลุม” ร่างคำแถลงของอียูระบุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยผู้ถูกควบคุมตัวทางการเมืองทุกคนและยุติเซ็นเซอร์สื่อ

รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์บอกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ว่ากระบวนการคืนความปรองดองระหว่างฝ่ายการเมืองต่างๆ และการปฏิรูปจะต้องใช้เวลาราว 1 ปี และการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามในเอกสารของอียูระบุคำแถลงดังกล่าวยังไม่ใช่โรดแมปที่น่าเชื่อถือสำหรับคืนสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ