xs
xsm
sm
md
lg

“จุดฮอตสปอต” ของ บ.ดาวเทียม “อิมมาร์แซต” กลายเป็นศูนย์กลางค้นหา MH370 ครั้งใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แผนที่พื้นมหาสมุทรอินเดียบริเวณการค้นหา MH370
เอเจนซีส์ - อิมมาร์แซต บริษัทข้อมูลดาวเทียมสัญชาติอังกฤษได้เปิดเผยกับสื่ออังกฤษ บีบีซี ว่าเท่าที่ผ่านมาในภารกิจการค้นหา ยังไม่มีใครค้นไปถึง “จุดฮอตสปอต” ที่ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทเชื่อว่าจะเป็นจุดตกของ MH370

บีบีซีรายงานในวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า ข้อมูลดาวเทียมที่เป็นสื่อสารกับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ได้กลายเป็นเงื่อนงำที่ดีที่สุดเพื่อค้นหาจุดตกของ MH370 ทั้งนี้ภารกิจการค้นหา MH370นั้นอยู่ในระหว่างการยุติชั่วคราวในขณะที่เรือที่อยู่ในระหว่างทำแผนที่ใต้มหาสมุทรอินเดีย ดังนั้นเมื่อการค้นหากลับมาเริ่มอีกครั้ง “จุดฮอตสปอต” ของอิมมาร์แซทจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้นหา MH370

แต่เท่าที่ผ่านมาจำนวนพื้นที่ต้องสงสัยที่คาดว่าจะพบนั้นมีทีมค้นหาอื่นๆ เข้าตรวจค้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียจะประกาศถึงจุดฮอตสปอตว่าอยู่ที่ใดบ้างหลังจากนี้ โดยรายการฮอไรซอนของบีบีซีทางโทรทัศน์ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมประจำบริษัทอิมมาร์แซท และพบว่า ข้อมูลการสื่อสารทางอิเลกทรอนิกระหว่าง MH370 และดาวเทียมของบริษัทดวงหนึ่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง กลายเป็นความน่าจะเป็นที่น่าเชื่อถือมากที่สุดที่จะนำไปสู่การค้นพบเครื่องบินที่ตกของบริษัทสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014

นักวิทยาศาสตร์ที่อิมมาร์แซตสามารถบอกได้จากช่วงระยะเวลาและความถี่ของสัญญาณเชื่อม (connection signals) ที่ MH370 ได้ส่งออกมาก่อนที่จะตกลงในมหาสมุทรอินเดียใต้ โดยเรือกองทัพออสเตรเลียถูกส่งเพื่อไปค้นหาในเขตตะวันตกของเพิร์ธ และตรวจสอตามบริเวณต่างๆ ที่แหล่งข้อมูลที่ปรากฏในขณะนั้นระบุ แต่เหมือนกับรายงานของฮอไรซอน บีบีซีที่ได้เปิดเผยเรือโอเชียนชิลด์ ของกองทัพออสเตรเลียไม่เคยได้เข้าสำรวจยังจุดฮอตสปอตของอิมมาร์แซต เพราะโอเชียนชีลเองสามารถจับสัญญาณที่ออกห่างออกไปที่และเจ้าหน้าที่ค้นหาคาดว่าสัญญาณเหล่านี้ถูกส่งมาจากกล่องดำของ MH370

ดังนั้น การตรวจสอบสัญญาณปิงเหล่านี้ถือเป็นภาระกิจเร่งด่วนแรกสุดของทีมค้นหา และในอีก 2 เดือนหลังจากนั้นโอเชียนชิลด์ถูกส่งไปค้นหาในพื้นที่ใต้น้ำราว 850 ตารางไมล์ในมหาสมุทรอินเดีย และท้ายที่สุดได้กลายเป็นทางตันสำหรับภารกิจค้นหา

“พื้นที่ค้นหาเหล่านั้นไม่ใช่ไม่ได้ตั้งบนความเป็นจริง แต่มันห่างไปไกลทางตะวันออกเฉียงเหนือกว่าจุดที่อิมมาร์แซตคาดว่าจะค้นพบ MH370” คริส แอชตัน จากอิมมาร์แซทให้สัมภาษณ์กับฮอไรซอน บีบีซี

เหล่าผู้เชี่ยวชาญของอิมมาร์แซตใช้ข้อมูลของพวกเขาพล็อตชุดเส้นอาร์กข้ามมหาสมุทรอินเดียซึ่งเป็นจุดที่ระบบของอิมมาร์แซทได้มีการต่อเชื่อมข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งสุดท้ายกับโบอิ้ง 777 และการจำลองการบินในความเร็วที่คงที่และทิศทางมุ่งหน้าที่ชัดเจนกับการบินด้วยระบบออโตไพล็อตของ MH370 ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบเส้นทางการบินที่ตรงกับข้อมูลทุกอย่างของอิมมาร์แซทที่มี

“เราสามารถระบุเส้นทางการบินที่ตรง 100% กับการสัญญาณความถี่และระยะช่วงเวลาที่พบว่า MH370 ได้ตกลงที่เส้นอาร์กสุดท้าย ณ จุดๆหนึ่งที่อิมมาร์แซทถือเป็นจุดฮอตสปอต ทางเราเชื่อว่าจุดฮอตสปอตเป็นจุดสุดท้ายที่ MH370 ดิ่งลงในมหาสมุทรอินเดีย” แอชตันกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียยังพิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องทำการสำรวจพื้นมหาสมุทรแบบมีความละเอียดสูง หรือ high-resolution-bathymetric (depth) ครอบคลุมพื้นที่ท้องมหาสมุทรราว 60 ตารางกิโลเมตร และคาดว่าต้องใช้เวลาหลายเดือน แต่หากทีมค้นหามีข้อมูลแผนที่พื้นผิวมหาสมุทรอยู่ในมือและความสูงของห้วงน้ำ หรือ water column (การวัดระดับน้ำในแนวลึก ใช้ในวิทยาศาสตร์สาขาสิ่งแวดล้อมเพื่อตรวจคุณภาพน้ำ) ทางทีมค้นหาสามารถเลือกใช้พาหนะที่เหมาะสมเพื่อภารกิจค้นหาใต้ผิวน้ำในจุดตกนั้นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น