เอเอฟพี - นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยเมื่อวันจันทร์ (16 มิ.ย.) พร้อมเปิดรับความร่วมมือกับคู่อริดั้งเดิมอย่างอิหร่านในประเด็นอิรัก และเตือนว่าอาจใช้ปฏิบัติการโจมตีด้วยเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ (โดรน) เพื่อหยุดยั้งการจู่โจมของพวกนักรบท่ามกลางรายงานข่าวพวกกบฏสุหนี่สังหารหมู่ทหารชีอะห์ 1,700 นาย
“ผมจะไม่ตัดความเป็นไปได้ทุกสิ่งที่พอจะอนุมานได้” เคอร์รีให้สัมภาษณ์กับยาฮูนิวส์ เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯจะร่วมมือทางทหารกับอิหร่าน หนึ่งในพันธมิตรหลักของนายกรัฐมนตรีนูรี อัล-มาลิกีแห่งอิรัก อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า “ขอดูก่อนว่า อิหร่าน มีความตั้งใจทำแบบนั้นมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่เราจะเริ่มประกาศตัวใดๆ”
กระนั้นก็ดีในเวลาต่อมา ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ยืนยันว่าไม่มีแผนปรึกษากับอิหร่าน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารในอิรัก แต่ก็เปิดทางสำหรับหารือทางการทูตในเรื่องเกี่ยวกับวิกฤตนี้ “ไม่มีความตั้งใจโดยแท้จริง และไม่มีแผนร่วมมือเคลื่อนไหวทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน”
แม้ว่าอิหร่านและสหรัฐฯ ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่อเมริกาและอิหร่านอาจมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ด้วยมีรายงานข่าวว่าทั้งสองอาจใช้เวทีเจรจาเกี่ยวกับความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของเตหะรานในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หารือกันนอกรอบในประเด็นอิรัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายบิล เบิร์นส์ ผู้ช่วยของนายเคร์รี ซึ่งเป็นผู้นำหารือกับอิหร่านอย่างลับๆ มานานหลายเดือนในอิหร่านเพื่อขับเคลื่อนการเจรจานิวเคลียร์ และเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนสหรัฐฯในออสเตรีย ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีการหยิบยกประเด็นอิรักเข้ามาพูดคุยแยกกันด้วย
นายเคร์รีบอกว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบในทุกทางเลือกที่พอจะนำมาปฏิบัติได้ ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ พร้อมย้ำว่าวอชิงตันมีพันธสัญญารักษาบูรณภาพของอิรัก
ราวหนึ่งสัปดาห์หลังพวกนักรบหัวรุนแรงจาก“รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” (Islamic State of Iraq and the Levant หรือ ISIL) เข้ายึดโมซุล เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอิรัก ในวันจันทร์(16) พวกนักรบญิฮาดและกองกำลังความมั่นคง เปิดฉากปะทะกันอย่างดุเดือดแย่งเพื่อหวังแย่งชิงเมืองเทล อาฟาร์ ดินแดนยุทธศาสตร์ของชาวชีอะห์
ปฏิบัติการจู่โจมอันน่าตื่นตะลึง สร้างความรู้สึกประหลาดใจแก่ทั้งเหล่าผู้นำอิรักและวอชิงตัน และกระตุ้นความกังวลต่อสงครามกลางเมืองทางนิกายรอบใหม่ระหว่างชาวสุหนี่และชีอะห์ ในประเทศที่สหรัฐฯ เพิ่งถอนทหารกลับเมื่อเดือนธันวาคม 2011 “นี่คือความท้าทายของเสถียรภาพในภูมิภาค มันเป็นความท้าทายทางปรัชญาอัติภาวนิยมต่อประเทศอิรักเอง นี่คือกลุ่มก่อการร้าย” เขาบอก
นายเคร์รีเห็นด้วยว่าการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีความสำคัญสำหรับหยุดยั้งกลุ่มนักรบที่เคลื่อนที่ไปทั่ว คอยตรวจขบวนรถและสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน
ท่ามกลางรายงานพวกนักรบสุหนี่ลงมือสังหารหมู่ทหารชีอะห์ 1,700 นาย นายเคร์รี ยืนยันว่า “เมื่อมีการก่ออาชญากรรมต่อประชานชน สังหารหมู่ผู้คนแบบนี้ คุณจำเป็นต้องหยุดยั้งมัน คุณจำเป็นต้องลงมือทำเพื่อหยุดมัน ไม่ว่าจะทางอากาศหรืออื่นๆ”
ในการเจรจากับอิหร่าน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้บอกว่าวอชิงตันพร้อมเปิดรับทุกกระบวนการเชิงสร้างสรรค์ ที่จะช่วยลดความรุนแรงให้เหลือน้อยที่สุด สานสามัคคีในอิรัก เพื่อบูรณภาพของประเทศและกำจัดกองกำลังก่อการร้ายจากต่างแดน ที่กำลังแบ่งแยกอิรัก
“ผมไม่ปฏิเสธกระบวนการเชิงสร้างสรรค์ใดๆ ที่สามารถสร้างเสถียรภาพอย่างแท้จริง เคารพต่อรัฐธรรมนูญ เคารพกระบวนการเลือกตั้งและให้ความเคารพต่อประชาชนชาวอิรักในการตัดตั้งรัฐบาลซึ่งเป็นตัวแทนแห่งผลประโยชน์ของชาวอิรัก ไม่ใช่กลุ่มนิกายหนึ่งที่อยู่เหนืออีกนิกายหนึ่ง” อย่างไรก็ตาม เขาย้ำไม่เชื่อว่าพวก ISIL จะสามารถบุกยึดกรุงแบกแดดในระยะเวลาอันใกล้นี้ และยืนยันว่าวอชิงตันจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนเพื่อปกป้องสถานทูตสหรัฐฯ