เอเอฟพี/รอยเตอร์ – แหล่งข่าวชี้ เจ้าหน้าที่อิรักร้องขออย่างไม่เป็นทางการให้สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีทางอากาศเพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่บุกยึดเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่ทำเนียบขาวออกตัวว่าปฏิบัติการทางอากาศ “ยังไม่ใช่ทางเลือก”
รัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา อยู่ระหว่างประเมินความเป็นไปได้ที่จะมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่แบกแดด ซึ่งอาจหมายรวมถึงปฏิบัติการโจมตีด้วยเครื่องบินไร้คนขับ แหล่งข่าวซึ่งขอสงวนนามให้สัมภาษณ์วานนี้(11)
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า วอชิงตันยังไม่เคยได้รับการร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิรักมาก่อน ส่วน เบอร์นาแด็ตต์ มีฮาน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ก็ให้สัมภาษณ์ผ่านทางอีเมล์ว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศยังไม่ใช่ทางเลือกหลักที่สหรัฐฯ จะพิจารณาเพื่อช่วยเหลืออิรักต่อกรกับกลุ่มก่อการร้ายที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จากผลพวงของสงครามกลางเมืองซีเรีย
“แม้ทีมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติจะมองหาลู่ทางต่างๆ แต่ประเด็นสำคัญที่เราจะพูดคุยกับรัฐบาลอิรักก็คือการสนับสนุนให้ชาวอิรักสามารถเผชิญหน้าและรับมือภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธ ISIL ได้ด้วยตนเอง” มีฮาน ระบุ
หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธซึ่งเรียกตนเองว่า “รัฐอิสลามแห่งอิรักและดินแดนเลแวนต์” (ISIL) ได้โจมตีเมืองโมซุล เมืองใหญ่อันดับสองของอิรัก และยึดพื้นที่ตอนเหนือไว้ได้ วอชิงตันก็มุ่งมั่น “ที่จะร่วมมือกับรัฐบาลและผู้นำกลุ่มต่างๆ ทั่วอิรัก เพื่อสนับสนุนและผนึกกำลังต่อต้านความอหังการของ ISIL” เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า รัฐบาลโอบามามีความกังวลมานานเกี่ยวกับภัยคุกคามของกลุ่มก่อความไม่สงบที่แผ่อิทธิพลเข้าใกล้กรุงแบกแดดยิ่งขึ้นทุกขณะ
เจ้าหน้าที่อเมริกันอีกคนหนึ่งเผยว่า โอบามา กำลังพิจารณาส่ง “อาวุธเพิ่มเติม” ไปยังอิรัก หลังจากที่เมืองโมซุลและติกริตตกอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธ ISIL แต่สหรัฐฯยังไม่มีแผนส่งทหารอเมริกันกลับเข้าไปยังสมรภูมิรบซึ่งเคยคร่าชีวิตกำลังพลไปถึง 4,500 นาย
สหรัฐฯ ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปช่วยสนับสนุนและฝึกฝนยุทธิวิธีแก่กองกำลังความมั่นคงอิรักในปีนี้ ขณะที่สภาคองเกรสอยู่ระหว่างพิจารณามอบความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์
โฆษกเพนตากอนระบุว่า เมื่อเดือนมกราคมสหรัฐฯ ได้จำหน่ายเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช 24 ลำแก่รัฐบาลอิรัก รวมถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถัง “เฮลล์ไฟร์” ราว 300 ลูก และเครื่องบินขับไล่ F-16 อีก 36 ลำ ซึ่งบางส่วนได้จัดส่งไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือก็จะทยอยส่งมอบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
สำหรับความช่วยเหลือมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นอาจรวมถึงรถฮัมวี 200 คัน และเครื่องบินโจมตี AT-6C Texan II อีก 24 ลำ แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส
แม้สหรัฐฯ จะถอนกำลังทหารออกจากอิรักเมื่อปลายปี 2011 แต่ยังคงช่วยฝึกฝนทหารท้องถิ่นเพื่อให้พร้อมปฏิบัติภารกิจต่อต้านก่อการร้าย
