“เปโตร โปโรเชนโก” สาบานตนรับตำแหน่ง “ปธน.ยูเครน” ลั่นไม่อ่อนข้อเรื่อง “ไครเมีย”

เอเจนซีส์ - เปโตร โปโรเชนโก มหาเศรษฐีธุรกิจขนมหวานผู้ได้ฉายา “ราชาช็อกโกแลต” เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนวันนี้ (7) พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักษาความเป็นเอกภาพของชาติ ท่ามกลางความคาดหวังว่าวิกฤตการเมืองระหว่างยูเครนกับอดีตนายเก่ายุคสหภาพโซเวียตจะพบทางออกอย่างสันติในอีกไม่ช้า

โปโรเชนโคกล่าวคำปฏิญาณ ณ อาคารรัฐสภาในกรุงเคียฟ เพียง 1 วันหลังจากที่ได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเป็นครั้งแรก ในพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปีวันดี-เดย์ ที่แคว้นนอร์มังดีของฝรั่งเศส

มหาเศรษฐีวัย 48 ปี ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 54.7 ถือเป็นผู้นำประเทศคนที่ 5 ของยูเครนในยุคหลังสหภาพโซเวียต

ราชาช็อกโกแลตขอให้แขกผู้มาร่วมพิธีในอาคารรัฐสภายืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยแก่ชาวยูเครน 100 คนที่เสียชีวิตจากเหตุจลาจล 3 วันในกรุงเคียฟ อันส่งผลให้อดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ผู้มีจุดยืนเอียงข้างมอสโกต้องพ้นจากอำนาจ

เปโตรเชนโกได้เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมกลุ่มก่อความไม่สงบ “ที่มือยังไม่เปื้อนเลือด” เพื่อคืนความสงบสุขแก่พลเมือง 46 ล้านคน หลังจากยูเครนต้องสูญเสียแหลมไครเมียให้แก่รัสเซียไปเพราะความแตกแยกทางเชื้อชาติ

“ผมมารับหน้าที่ประธานาธิบดี เพื่อปกป้องและเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของยูเครน” โปโรเชนโก ระบุในถ้อยแถลง ซึ่งถูกถ่ายทอดเป็นภาษายูเครนและรัสเซีย

โปโรเชนโก ยังยืนยันกับพลเมืองในภูมิภาคดอนบาสส์ (Donbass) ซึ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนว่า รัฐบาลจะมีนโยบายกระจายอำนาจมากยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้ประชาชนสื่อสารด้วยภาษารัสเซียอย่างเสรี

อย่างไรก็ดี โปโรเชนโกย้ำว่ารัฐบาลเคียฟชุดใหม่จะไม่อ่อนข้อให้รัสเซีย ทั้งในเรื่องของจุดยืนโปรตะวันตกและสถานะของคาบสมุทรไครเมีย

“ไครเมียเป็นดินแดนของยูเครน และจะต้องเป็นของยูเครนตลอดไป... ผมได้ยืนยันกับผู้นำรัสเซียเช่นนี้ ระหว่างที่เราพบกันที่นอร์มังดี”

“นี่คือเวลาแห่งความสัตย์จริง อยู่ที่เราจะตัดสินอนาคตของพวกเราเองอย่างไร”

บุคคลสำคัญที่เดินทางไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนของ โปโรเชนโก วันนี้ (7)ได้แก่ รองประธานาธิบดี โจเซฟ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ, ประธานสภายุโรป เฮอร์มาน แวน รอมปุย และแขกผู้มีเกียรติจากอีก 20 ประเทศที่สนับสนุนให้กรุงเคียฟหันมาสานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับโลกตะวันตก

รัสเซียเพียงแต่ส่งรักษาการเอกอัครราชทูตประจำกรุงเคียฟมาร่วมพิธี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนถึงความเหินห่างระหว่าง 2 ชาติเพื่อนบ้านที่สัมพันธ์เริ่มทรุดหนักตั้งแต่ชาวยูเครนลุกฮือขับไล่รัฐบาลยานูโควิชเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

โปโรเชนโก ถือเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในรัฐบาลโปรตะวันตกยุคหลังการปฏิวัติสีส้มเมื่อปี 2004 และในรัฐบาล ยานูโควิช ที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมอสโกเคยแถลงว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้นำยูเครนคนใหม่ แต่หลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยรับรองอย่างชัดเจนว่า โปโรเชนโกคือประธานาธิบดีของชาวยูเครน “โดยชอบธรรม”

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งได้พบกับ ปูติน เพียงราวๆ 10 นาทีเมื่อวานนี้ (6) ให้สัมภาษณ์ต่อรายการข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า รัสเซีย จะต้องให้การยอมรับ โปโรเชนโก หากต้องการให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศคลี่คลายลง