รอยเตอร์ส - ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียและว่าที่ผู้นำคนใหม่ของยูเครน พบหน้าและพูดคุยกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มอสโกผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน โดยทั้งคู่ได้สนทนากันสั้นๆ หารือกันถึงแนวทางยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 4 เดือนระหว่างเข้าร่วมพิธีรำลึก 70 ปีของวันยกพลขึ้นบกสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือวัน "ดีเดย์" ที่ฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์(6)
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ อองลองด์ของฝรั่งเศสและนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้เข้าร่วมหารือกับวลาดิมีร์ ปูตินและว่าที่ประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก ที่ใช้เวลาราว 15 นาที ก่อนทั้งหมดจะเดินทางไปเข้าร่วมพิธีพร้อมกับแขกผู้ทรงเกียรติอื่นๆ
การหารือครั้งนี้ถือเป็นจุดลงเอยในความพยายามทางการทูตอย่างลับๆของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส ที่ประสงค์ดึงทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน เพื่อทลายทางตันของวิกฤตด้านความมั่นคงครั้งเลวร้ายที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น
ทั้งนี้ทางทำเนียบขาวเปิดเผยด้วยว่าในเวลาต่อมา นายปูติน ก็ได้พูดคุยสั้นๆอย่างไม่เป็นทางการกับประธานาธบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเช่นกัน
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่านายปูตินและนายโปโรเชนโก จับมือกันและเห็นพ้องว่าการเปิดหารือถึงรายละเอียดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองกำลังรัฐบาลยูเครนกับฝ่ายกบฏนิยมรัสเซียทางภาคตะวันออกของยูเครน ควรจะต้องเริ่มขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า
นอกจากนี้แล้วทั้งสองคนยังได้หารือกันถึงก้าวย่างต่างๆ อาทิความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะรับรองชัยชนะการเลือกตั้งของนายโปโรเชนโก เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามจากภาพถ่ายจะเห็นได้ว่าว่าที่ประธานาธิบดียูเครน ทำหน้าบึ้งและเอาจริงเอาจ่ายขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆนายปูตินและแมร์เคิล
"มันเป็นเรื่องปกติ ท่านผู้นำทั้งสองมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างจริงจัง" เจ้าหน้าที่ปรำจำทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าว "นี่แสดงถึงความก้าวหน้าที่ยังพัฒนาต่อไปได้ ซึ่งประธานาธิบดีออลลองด์ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้โอกาสนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ"
ในมอสโก โฆษกของวังเครมลินบอกว่าทั้งสองผู้นำต่างเร่งเร้ายุติเหตุนองเลือดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนโดยเร็ว เช่นเดียวกับยุติการสู้รบของทั้งสองฝ่าย "มันยืนยันว่าไม่มีทางอื่นที่สามารถคลี่คลายวิกฤต ยกเว้นแต่ผ่านวิถีทางทางการเมืองอย่างสันติ"
ออลลองด์ เชิญนายโปโรเชนโก เข้าร่วมพิธีที่เมืองนอร์มังดี ในฐานะแขกรับเชิญในนาทีสุดท้าย ในความพยายามทลายทางตันของวิกฤตขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟ ขณะที่กองกำลังรัฐบาลยูเครนกำลังสู่รบกับกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ที่ทางเคียฟกล่าวหาว่าเคริมลินให้การสนับสนุน
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโอบามา หลีกเลี่ยงเจอหน้าประธานาธิบดีปูติน ระหว่างทั้งคู่อยู่ในกรุงปารีสเมื่อวันพฤหัสบดี(5) อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวเผยในวันศุกร์(6) ว่าทั้งสองคนได้พบปะพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน "มันเป็นการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ ไม่ใช่การหารือแบบทวิภาคีที่เป็นทางการ" นายเบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุ พร้อมบอกว่าทั้งคู่ใช้เวลาคุยกันราว 10-15 นาที
เหล่าผู้นำจากทั่วโลกและอดีตนายทหารจากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา นอร์เวย์และฝรั่งเศส ที่เคยร่วมรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ร่วมรำลึกครบรอบ 70 ปีของวันดีเดย์ ในพิธีต่างๆที่จัดขึ้นทั่วชายหาดนอร์มังดี
ในส่วนของพิธีนั้น มีทั้งการวางพวงมาลา เดินขบวนพาเหรด การแสดงของเครื่องบินผาดโผน จุดดอกไม้ไฟ เพื่อเป็นการสดุดีบรรดาทหารสัมพันธมิตรนับ 160,000 นาย ทั้งสหรัฐฯ, อังกฤษ แคนาดาและอื่นๆ ที่มาขึ้นฝั่งชายหาดนอร์มังดี ของฝรั่งเศสเพื่อทำการสู้รบกับกองกำลังทหารฝ่ายอักษะ-นาซีเยอรมนี ด้วยความหาญกล้า จนในที่สุด ทหารสัมพันธมิตรเป็นฝ่ายชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษได้เสด็จมาร่วมในพิธีด้วย รวมทั้งยังมีประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้นำประเทศอีก 17 ชาติ อาทิประธานาธิบดีบารัก โอบามา นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี นายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย