เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เกิดเหตุมือปืนบุกเดี่ยวกราดยิงมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในนครซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวานนี้ (5) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 3 คน หนึ่งในนั้นอาการสาหัส
ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 รายถูกนำส่งโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุกราดยิงขึ้นภายในมหาวิทยาลัยซีแอตเติลแปซิฟิก ซึ่งนับเป็นการสังหารหมู่ด้วยอาวุธปืนครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
สำนักงานตำรวจเมืองซีแอตเติลระบุว่า คนร้ายชักปืนขึ้นมากราดยิงผู้คนภายในโถงอาคารหลังหนึ่งของคณะวิทยาศาสตร์
“ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 1 ราย เป็นชายวัยผู้ใหญ่ที่ถูกนักศึกษาเวรยามใช้สเปรย์พริกไทยสกัดไว้ได้” ถ้อยแถลงจากทางตำรวจระบุ
รายงานเบื้องต้นระบุว่า มือปืนมีกันทั้งหมด 2 คน แต่ตำรวจยืนยันแล้วว่าเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน
นักศึกษาคนหนึ่งเล่าว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากข้างๆ ห้องเรียน ตอนแรกอาจารย์ผู้สอนคิดว่าเป็นเสียงจากอุบัติเหตุในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่มีนักศึกษาวิ่งออกไปดูและกลับเข้ามาบอกว่า “ผมคิดว่ามีคนถูกยิง”
“หลังจากนั้นเราจึงปิดไฟในห้องทั้งหมด ล็อกประตู และปิดม่านบังตาด้วย” นักศึกษาซึ่งมีนามว่า เบลก ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ KIRO 7 TV
“หลังจากนั้นไม่กี่นาที ตำรวจก็มาถึงและเข้ามาในห้องเรียนข้างๆ ก่อนจะเปิดประตูนำพวกเราออกไป”
โฆษกตำรวจ คริส ฟาวเลอร์ เปิดเผยว่า มือปืนซึ่งเป็นชายวัยรุ่นถูกนำตัวไปคุมขัง หลังจากที่ชักปืนกราดยิงโถงอาคารในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ฟาวเลอร์ระบุด้วยว่า ขณะที่คนร้ายกำลังใส่กระสุนเพิ่ม “นักศึกษาเวรยามได้เข้าขัดขวาง และล็อคตัวไว้ได้เสียก่อน”
“พอชายคนนั้นถูกกดไว้กับพื้น นักศึกษาคนอื่นๆ ก็ช่วยกันรุมเขาไว้ จนกระทั่งตำรวจไปถึง”
เมื่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อน ชายวัย 22 ปีซึ่งป่วยเป็นโรคจิตเพิ่งจะก่อเหตุกราดยิงลักษณะนี้ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองซานตาบาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 6 ราย ก่อนที่คนร้ายจะหันปากกระบอกปืนใส่ตนเองและลั่นไก
ชาวอเมริกันต้องขวัญผวากับเหตุกราดยิงสถานศึกษาที่เกิดบ่อยขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เช่น การกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดีฮุกในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเน็ตทิคัต เมื่อเดือนธันวาคมปี 2012 ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนตัวเล็กๆ เสียชีวิตไป 20 คน หรือเหตุสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคเมื่อเดือนเมษายน ปี 2007 ซึ่งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตไปถึง 33 คน รวมถึงตัวมือปืนเอง