รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามตรวจพิสูจน์เศษซากหักพังต่างๆ ในวันอังคาร (25) ท่ามกลางความหวังที่ลบเลือนลงไปทุกทีว่าจะพบผู้รอดชีวิต ขณะที่จำนวนผู้สูญหายจากเหตุโคลนถล่มครั้งใหญ่ที่ชุมนุมชนบทเล็กๆ ใกล้ๆ เมืองซีแอตเติล ในมลรัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (22) ที่ผ่านมาคราวนี้ ได้พุ่งสูงขึ้นเป็น 176 คน ส่วนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 14 คน ล่าสุดหัวหน้าศูนย์ฉุกเฉินตัดสินใจปรับแผนปฏิบัติการช่วยเหลือสู่ภารกิจเก็บกู้แล้ว
หน่วยกู้ภัยหลายสิบคนยังคงปฏิบัติการค้นหาตลอดทั้งคืน ด้วยยังมียอดผู้สูญหายสูงถึง 176 ราย นับตั้งแต่ไหล่เขาที่ชุ่มแฉะไปด้วยฝน ไหลพุ่งเข้าใส่ โอโซ ชุมชนบริเวณไหล่เขาทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันเสาร์ (22)
ทั้งนี้ พวกเขาต้องทำงานกันอย่างเร่งรีบด้วยความกังวลว่าอาจเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำเติม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสติลลากิมิช ใกล้ชุมชนโฮโซ ห่างจากเมืองซีแอตเติล ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 90 ไมล์ สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่แม่น้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและโคลนที่ถล่มลงมาจากเขา
เจ้าหน้าที่หวังว่าจำนวนประชาชนที่อยู่ในบัญชีผู้สูญหายจะลดลง ด้วยบางทีอาจนับซ้ำซ้อนหรือไม่ก็บางคนก็แจ้งกับครอบครัวและเจ้าหน้าที่ถึงถิ่นที่อยู่ของตนเองล่าช้า ขณะที่ในตอนเช้าของวันอังคาร (25) หน่วยกู้ภัยยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมแม้แต่รายเดียว
จอห์น เพนนิงตัน หัวหน้าศูนย์จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของสโนโฮมิช เคาน์ตี ในมลรัฐวอชิงตัน ระบุหลังจากผ่านพ้นมาแล้ว 3 วัน จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากปฏิบัติการช่วยเหลือสู่ภารกิจเก็บกู้ “เราไม่เคยสูญเสียศรัทธาและผู้คนจำนวนมากในชุมชนแห่งนี้ก็ไม่เคยสูญสิ้นศรัทธา แต่เราต้องยอมรับความจริง เราตอบสนองอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราจะยังคงทำแบบนั้นต่อไป แต่เราต้องเลี้ยเข้าสู่ปฏิบัติการเก็บกู้แล้ว”
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งไปร่วมประชุมกับเหล่าผู้นำโลกในยุโรปเมื่อวันจันทร์ (24) ได้ลงนามในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกคำสั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่รัฐวอชิงตัน เช่นเดียวกับความพยายามบรรเทาภัยท้องถิ่น
กำแพงโคลน หิน และต้นไม้ถาโถมเข้าใส่ โอโซ ชุมชนชนบทเล็กๆ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันเสาร์ (22) ที่ผ่านมา ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังและบางส่วนของถนนหลวงสายหนึ่ง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย
ความพยายามเข้ากู้ภัยตามหลังเกิดเหตุในวันเสาร์ (22) ต้องประสบกับอุปสรรค โดยโคลนที่ถล่มลงมายังคงไหลไม่หยุด ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคนที่พยายามเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุจมลึกถึงรักแร้และต้องพยายามดึงตัวเองออกมา
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักผิดปกติในแถบภูเขาคาสเคด แม้ฝนหยุดตกในวันอาทิตย์ ทว่า บริการพยากรณ์อากาศคาดว่าจะมีฝนหนักมากต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่จึงต้องจับตาเขื่อนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกลัวว่าแรงดันจากแม่น้ำที่ล้นตลิ่งหลังเขื่อน อาจทะลักท่วมชุมชนที่อยู่ปลายน้ำ