เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เผยในวันจันทร์ (24) ตัวเลขผู้สูญหายในเหตุโคลนถล่มครั้งใหญ่ที่ไหลพุ่งเข้าใส่ชุมชนบริเวณไหล่เขาในรัฐวอชิงตัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันเป็นมากกว่า 100 คน ยอมรับสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ด้วยโอกาสพบผู้รอดชีวิตเลือนราง แม้ตอนนี้ยอดตายยังอยู่แค่ 8 รายก็ตาม
รายงานตัวเลขผู้สูญหายเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันจากเบื้องต้น 18 คน เป็น 108 คน หลังพบว่าเหตุดินถล่มครั้งนี้ได้ถาโถมลงมาราวกับขบวนรถไฟบรรทุกสินค้า ทะลักสู่ไหล่เขาในสโนโฮมิช เคาน์ตี ในมลรัฐวอชิงตัน และเพียงไม่ถึงนาทีทุกอย่างถูกฝังอยู่ใต้โคลน “เรายังคงอยู่ในรูปแบบของการค้นหา แต่สถานการณ์สาหัสอย่างยิ่ง” ทราวิส ฮอตส์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเขตสโนโฮมิช เคาน์ตี บอก “เรายังหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต แต่เราก็ไม่เจอใครที่มีชีวิตรอดมาตั้งแต่วันเสาร์”
อย่างไรก็ตาม จอห์น เพนนิงตัน หัวหน้าศูนย์จัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน ย้ำว่าตัวเลขผู้สูญหายหรือหาตัวไม่พบ 108 คน ยังไม่ใช่ยอดผู้หายสาบสูญที่แท้จริงตามหลังหายนะซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (15) ด้วยกังวลว่ามันอาจเลวร้ายกว่าที่คาด
เพนนิงตัน เผยต่อว่าโดยรวมแล้ว มีบ้านเรือนอย่างน้อย 49 หลังพังราบเป็นหน้ากลองจากอานุภาพของดินถล่ม และมีความเป็นไปได้ที่ยอดผู้สูญหาย หรือเสียชีวิตอาจมากกว่านี้ เนื่องจากตอนเกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งชาวบ้านจำนวนมากพักผ่อนอยู่ภายในที่พักอาศัย
“จนถึงตอนนี้ มีรายงานบุคคลสูญหายหรือหาตัวไม่พบ 108 คน” เขากล่าว “ตัวเลขนี้ไม่ได้หมายความว่ามีคนได้รับบาดเจ็บ 108 ราย หรือเสียชีวิต 108 คน มันเป็นวันเสาร์ ดังนั้นจำนวนผู้สูญหายจึงน่าจะมากกว่าในวันธรรมดา”
กำแพงโคลน หิน และต้นไม้ถาโถมเข้าใส่ โอโซ ชุมชนชนบทเล็กๆ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันเสาร์ (22) ที่ผ่านมา ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎรหลายหลังและบางส่วนของถนนหลวงสายหนึ่ง
หนังสือพิมพ์ซีแอตเติท ไทม์ส รายงานว่าภายในบริเวณพื้นที่ 2.6 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ก้อนหิน ต้นไม้ และโคลน โดยในวันเสาร์ (22) หน่วยกู้ภัยยังได้ยินเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ฮอตส์ กล่าวว่าพวกเขาไม่เห็นหรือได้ยินเสียงของสิ่งมีชีวิตมาตั้งแต่วันอาทิตย์ (23) แล้ว
ภายในพื้นที่ที่ถูกโคลนถล่ม ซึ่งบางจุดซากมีปรักหักพังกองทับถมสูงถึง 4-6 เมตรนั้น ยังพบผู้บาดเจ็บสาหัส 7 คน ในจำนวนนี้มีทั้งทารกวัย 6 เดือน และชายชราอายุ 81 ปี ขณะที่ในบรรดาที่ผู้สูญหายนั้น รวมไปถึงทารกวัย 4 เดือนและคุณยายของเธอ
เจย์ อินสลี ผู้ว่าการมลรัฐวอชิงตัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัย และยืนยันว่า มีความพยายามกู้ภัยอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง พร้อมเสริมว่า เฮลิคอปเตอร์ ยานโฮเวอร์คราฟต์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบรุดไปยังสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี โคลนที่ถล่มลงมายังคงไหลไม่หยุด ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางคนที่พยายามเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุจมลึกถึงรักแร้และต้องพยายามดึงตัวเองออกมา
ทั้งนี้ ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักผิดปกติในแถบภูเขาคาสเคด แม้ฝนหยุดตกในวันอาทิตย์ ทว่า บริการพยากรณ์อากาศคาดว่า จะมีฝนหนักมากต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์นี้
ขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องจับตาเขื่อนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกลัวว่าแรงดันจากแม่น้ำที่ล้นตลิ่งหลังเขื่อน อาจทะลักท่วมชุมชนที่อยู่ปลายน้ำ
