รอยเตอร์ - สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (อีพีเอ) วางแผนงานวันนี้ (2) เพื่อแนะแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากบรรดาโรงไฟฟ้าภายในประเทศลงให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030
ข้อเสนอดังกล่าวถูกแย้มออกมาเป็นบางส่วน ก่อนการเปิดเผยในวันนี้ (2) โดย จีนา แม็คคาร์ธีย์ หัวหน้าสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ส่วนมากเน้นย้ำไปที่กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีความสำคัญและได้ผลในวงกว้าง
ถึงแม้ว่ารัฐต่างๆ จะตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยจากโรงไฟฟ้าแตกต่างกันไป แต่ภาคพลังงานก็จำเป็นต้องลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 25 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยภายในปี 2020 และจะต้องปรับลดให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าที่ตั้งไว้ในอีก 10 ปีหลังจากนั้น แหล่งข่าวระบุ
สมาชิกสภานิติบัญญัติได้รับฟังการกล่าวบรรยายสรุปเกี่ยวกับแนวทางของอีพีเอในวันอาทิตย์ (1) ซึ่งรวมถึงเชลดอน ไวต์เฮาส์ สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐโรดไอแลนด์ และเอ็ดเวิร์ด มากีย์ ส.ว.จากรัฐแมสซาชูเซตส์ สองผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของวุฒิสภาต่อมาตรการที่ใช้รับมือกับภาวะโลกร้อน
การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภาคพลังงานลดลงหลังปี 2008 เป็นต้นมาเนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์และลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหิน รวมถึงเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนัก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานข้อมูลด้านพลังงานระบุว่า ระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2013 ได้ปรับลดลงมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากระดับเมื่อปี 2005 สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯได้ดำเนินการปรับลดตามหนทางที่สอดรับกับเป้าหมายใหม่ได้
อีพีเอมีแนวโน้มที่จะให้รัฐต่างๆ ได้มีทางเลือกมากพอสมควรเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจจะกำหนดกรอบเวลาที่แตกต่างกันไปเพื่อให้บรรดารัฐที่เป็นผู้บริโภคถ่านหินรายใหญ่ อย่างเช่น รัฐเคนตักกีและเวอร์จิเนียตะวันตก สามารถดำเนินรอยตามได้ แหล่งข่าวระบุ
ทางเลือกที่สำนักงานอีพีเอจะเสนอให้นั้นรวมไปถึงการพัฒนาประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าให้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและใช้แหล่งผลิตไฟฟ้าที่ปลอดคาร์บอนมากขึ้น เช่น พลังงานนิวเคลียร์ และแหล่งผลิตที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีความเป็นไปได้ที่อีพีเอจะให้รัฐเหล่านี้นำระบบ “การค้าขายแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก” มาใช้
อย่างไรก็ตาม รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนืออีก 9 รัฐได้นำระบบ “ตลาดคาร์บอน” มาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว