เอเอฟพี - สมาชิกวุฒิสภาออสซี่ที่ดำรงตำแหน่งมานานวันนี้ (26 พ.ค.) นำสิ่งที่เขาระบุว่าเป็น “ระเบิดท่อ” เข้าไปในรัฐสภาแห่งชาติออสเตรเลียเพื่อพิสูจน์ความคิดของตัวเองที่ว่า ระเบียบรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ไม่ได้มาตรฐาน
ส.ว.บิลล์ เฮฟเฟอร์แนน สมาชิกพรรคอนุรักษนิยม “ริเบอรัล ปาร์ตี” ชูท่อน้ำในมือขึ้น พร้อมกับวัตถุอีกชิ้นที่ดูคล้ายกับระเบิดไดนาไมต์ ระหว่างเข้าร่วมการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา ณ กรุงแคนเบอร์รา
เฮฟเฟอร์แนน อดีตเกษตรกรซึ่งเป็นคนพูดจาโผงผาง และเข้ามาเป็นสมาชิกรัฐสภาแห่งชาติออสเตรเลียเมื่อปี 1996 ชี้ว่า “เห็นได้ชัดว่า คุณสามารถทำอะไรก็ได้อย่างที่ต้องการ”
เฮฟเฟอร์แนนกล่าวว่า คนส่วนใหญ่ที่ทำงานในรัฐสภาต่างรู้สึกปลอดภัยดีจนถึงตอนนี้ แต่ระเบียบใหม่ที่กำลังทดลองใช้กลับอนุญาตให้คนบางส่วน อย่างนักการเมือง สามารถแสดงบัตรผ่าน โดยไม่ต้องนำสัมภาระเข้าเครื่องสแกน ส่งผลให้ชีวิตทุกคนต้องเสี่ยงอันตราย
“ผมไม่คิดว่า (รัฐสภาปลอดภัย) อีกต่อไป และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็น เช้านี้ผมจึงนำเจ้าสิ่งนี้ ระเบิดท่อ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามา” เขากล่าวขณะนำท่อน้ำขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบระเบิดไดนาไมต์ปลอมออกมาจากถุงพลาสติก
เฮฟเฟอร์แนนกล่าวว่า ตอนที่เขายังเป็นเด็ก มีคนนำแอมโมเนียมไนเตรต น้ำมันดิน ดินระเบิดเจลอิกไนต์ และเชื้อปะทุระเบิด มาใช้โค่นต้นไม้
เขากล่าวว่า “คุณสามารถโค่นต้นไม้ที่สูงเท่าอาคารหลังนี้ให้ลงไปกองกับพื้นได้เลย”
“ตอนนี้ใครก็สามารถนำส่วนผสมพวกนี้เข้ามาที่นี่โดยไม่ถูกขัดขวาง มันสามารถผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาได้ช่วงหนึ่ง”
โทนี เนกัส อธิบดีกรมตำรวจกลางออสเตรเลีย ผู้ที่มาปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการก็แสดงท่าทีเห็นด้วยกับเขา
เขากล่าวว่า “มีความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องแบบนั้น ในช่วงทดลองใช้ระเบียบรักษาความปลอดภัยฉบับใหม่”
ในเวลาต่อมา เนกัส เปิดเผยว่า เฮฟเฟอร์แนนได้นำวัตถุเหล่านี้มาให้เขาตรวจสอบก่อนเข้าร่วมการชี้แจงแล้ว และเขาก็พอใจที่วัตถุเหล่านี้ไม่ใช่ของจริง พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า นี่คือสาเหตุที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ห้าม เมื่อเฮฟเฟอร์แนนนำของเหล่านี้เข้ามา
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงมาตรการรักษาความปลอดภัยในเดือนนี้ อนุญาตให้ใครก็ตามที่แสดงบัตรประจำตัวติดรูปถ่ายซึ่งรัฐบาลออกให้ ไม่ต้องผ่านเครื่องตรวจจับวัตถุโลหะ หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์ ขณะเข้าสู่อาคารรัฐสภา
แครอล มิลส์ เลขาธิการกรมกิจการรัฐสภาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ แคนเบอร์ราไทมส์ว่า มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยในรัฐสภาแห่งชาติมีระดับที่สูงกว่าระบบของสภารัฐ และหน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ในเมืองหลวงของประเทศ
