รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในวันเสาร์(24) พร้อมคุยกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เรื่องหมู่เกาะแปซิฟิกที่พิพาททางเขตแดน แต่ไม่แน่ใจว่าญี่ปุ่นจะพร้อมเจรจาในงานประชุมอินเตอร์แนชันแนลอิโคโนมิคฟอรัมในกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย พร้อมทั้งประกาศว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เป็นใครจึงสามารถตัดสินได้จากข้อถามที่โอบามากล่าวหาปูตินโกหกที่ปฎิเสธไม่มีส่วนในวิกฤตยูเครน
ญี่ปุ่นได้ร่วมคว่ำบาตรรัสเซียพร้อมชาติตะวันตกเนื่องจากวิกฤตยูเครน ที่ล่าสุดประกาศระงับออกวีซ่าให้ชาวรัสเซีย 23 คนในเดือนเมษายน 2014 “เราพร้อมที่จะเจรจา” ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้สัมภาษณ์นอกรอบในงานประชุมอินเตอร์แนชันแนลอิโคโนมิคฟอรัมในกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย วันเสาร์(24) และกล่าวต่อว่า “แล้วญี่ปุ่นพร้อมหรือยัง ผมโดยส่วนตัวแล้วยังไม่แน่ใจนัก”
เป็นเวลาหลายสิบแล้วที่รัสเซียและญี่ปุ่นได้มีข้อพิพาทเขตแดนเกาะคูริล (Kurile) ทางเหนือเกาะฮอกไกโด ซึ่งญี่ปุ่นประกาศว่าอยู่ในเขตแดนทางเหนือญี่ปุ่น โดยปูตินเปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศต้องการที่จะแก้ปัญหาข้อขัดแย้ง แต่ผู้นำรัสเซียย้ำว่าทางออกต้องมาจากทั้งสองฝ่ายที่ร่วมกันหาทางออกอย่างอุตสาหะเท่านั้น และปูตินกล่าวต่อว่า “ทางแก้ปัญหาต้องไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์ หรือทำให้รู้สึกว่าพ่ายแพ้”
และนอกจากนี้ในงานเดียวกันเมื่อปูตินถูกถามถึงสหรัฐฯ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า สหรัฐฯเป็นผู้นำโลกที่ล้มเหลว และได้กล่าวหาว่าเป็นเพราะชาติตะวันตกทำให้ยูเครนต้องอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมือง โดยปูตินได้ตอบปฎิเสธต่อข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามาว่า ปูตินโกหกที่อ้างว่ารัสเซียไม่ได้อยู่เบื้องหลังความยุ่งเหยิงในยูเครน พร้อมกับยังเสริมว่า “ใครแต่งตั้งให้โอบามาเป็นผู้พิพากษา” และเสริมต่อว่า คิดว่าโอบามาคงมีความเห็นมากกว่าที่จะให้คำชี้แนะเขา
นอกจากนี้ปูตินยังปฎิเสธข้อกล่าวหาจาก NSA สหรัฐฯที่อ้างว่า เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ปัจจุบันขอลี้ภัยในรัสเซียนั้นทำงานรับใช้รัสเซีย “สโนว์เดนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของเรา เขาไม่เคยให้ข้อมูลลับต่อรัสเซีย และไม่เคยเปิดเผยเอกสารลับ หรือความลับใด” ปูตินกล่าว นอกจากนี้ปูตินยังโต้ว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของรัสเซียและสหรัฐฯที่ร้าวฉานไม่ใช่ความผิดของเขา “เราไม่ได้เป็นผู้เริ่มถึงแม้จะมีปฎิกริยาที่ไม่เป็นมิตรเข้ามา แต่เราพร้อมที่จะร่วมมือ อย่างไรก็ตามรัสเซียไม่ต้องการโดดเดี่ยว แต่เราไม่สามารถบังคับให้ใครมารักได้”
นอกจากนี้ปูตินยังยืนยันว่า ยูเครนอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมือง พร้อมกับเสริมว่า “เป็นการทำรัฐประหาร” ไม่ใช่ “การปฎิวัติโดยประชาชน” ที่ทำให้อดีตประธานาธิบดียูเครน วิกเตอร์ ยานูโควิชตกจากอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ และไม่รับข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตกที่อ้างว่า รัสเซียเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยูเครนจนทำให้เกิดวิกฤตในขณะที่ปูตินโต้กลับว่า แท้จริงแล้ววิกฤตเกิดเพราะสหรัฐฯหนุนหลังกลุ่มรัฐประหารจนนำไปสู่วิกฤตในที่สุด
และปูตินยืนยันว่าจะเคารพในมติของประชาชนยูเครนต่อผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์(25) และพร้อมจะทำงานร่วมกับใครก็ตามที่ได้รับการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ปูตินให้ความสงสัยว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนที่จัดขึ้นในวันนี้(25)จะสะท้อนความเห็นความต้องการประชาชนยูเครนที่แท้จริงในเมื่อกลุ่มผู้ประท้วงชาวยูเครนในภาคตะวันออกไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้
และท้ายที่สุดปูตินเรียกร้องให้ยูเครนชำระค่าก๊าซธรรมชาติจำนวน 3.5 พันล้านดอลลาร์ที่ติดค้าง พร้อมยังเรียกชาติยุโรปตะวันตกว่า “ไอ้พวกหัวสูงอวดฉลาด” ที่ไม่ฟังคำเตือนของรัสเซียในการที่อียูยื่นข้อเสนอความใกล้ชิดทางเศรษฐกิจให้กับยูเครนในปีที่ผ่านมา แต่ยานูโควิชปฎิเสธทำให้เกิดการประท้วงลุกลามเป็นวิกฤตถึงทุกวันนี้ในที่สุด