เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขึ้นแรงวานนี้ (21 พ.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯลดลงมากผิดคาด บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดสวนทาง หลังรายงานประชุมเฟดเผยให้เห็นว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายมากนัก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 86 เซ็นต์ ปิดที่ 110.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม
ในรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (21) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกาในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม ลดลงถึง 7.2 ล้านบาร์เรล ตัวเลขดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่นักลงทนพอสมควร ด้วยก่อนหน้านี้คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล หลังจากสต๊อกเชื้อเพลิงปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องช่วงหลายเดือนหลัง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (21) พุ่งแรง หลังรายงานการประชุม (minutes) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายแค่เล็กๆ น้อยๆ ท่ามกลางผลประกอบการที่ผสมผสานของภาคค้าปลีก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 158.11 จุด (0.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,532.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.15 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,887.98 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 34.65 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,131.54 จุด
ผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งของทิฟฟานีแอนด์โค ส่งผลให้หุ้นของผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับจากอัญมณีชื่อดังจากสหรัฐฯ แห่งนี้ ปิดบวกถึงร้อยละ 9.0 อย่างไรก็ตาม Lowe's แบรนด์ค้าปลีก กลับมีผลประกอบการที่ผิดเป้า ฉุดให้หุ้นของบริษัทปิดลบร้อยละ 0.2
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ฉุดให้วอลล์สตรีทลงแรง ก็คืองรายงานการประชุม (minutes)ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่หารือกันในเรื่องปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น แต่ผลการพูดคุยก็ได้ข้อสรุปว่ายังไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นเร็วๆนี้ จากที่กรอบเวลาเดิมของการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์ วางเอาไว้จนถึงช่วงกลางปี 2015
ส่วนราคาทองคำวันพุธ (21) ปิดลบในกรอบแคบๆ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ด้วยนักลงทุนขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำแล้วหันไปลงทุนในตลาดหุ้นแทน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,288.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
