เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ธนาคารเพื่อการฟื้นฟูและการพัฒนาแห่งยุโรป (EBRD) เผยในรายงานฉบับใหม่ระบุว่าเศรษฐกิจยูเครนในปีนี้จะดิ่งเหวประสบภาวะถดถอยกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในปี 2015 อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยูเครนจะอยู่ที่ร้อยละ “0” จากผลพวงของวิกฤตการเมืองในประเทศที่เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม ทางธนาคารเพื่อการฟื้นฟูและการพัฒนาแห่งยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูเครนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ในยุโรปตะวันออกอาจมีการขยายตัวในปีนี้ที่ระดับ 1.5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี ปัญหาทางการเมืองที่ยังไร้ทางออก ส่งผลให้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจยูเครนประสบภาวะหดตัวไปแล้ว 1.1 เปอร์เซ็นต์
ขณะเดียวกัน ค่าของเงิน “ฮรีฟเนีย” ซึ่งเป็นสกุลเงินประจำชาติของยูเครนได้ปรับร่วงลงไปกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ทางธนาคารกลางแห่งยูเครนจะพยายามเข้าแทรกแซงแต่ก็ไม่เป็นผล ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกคำเตือนที่ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อของยูเครนในปีนี้อาจพุ่งสูงแตะระดับ 12 เปอร์เซ็นต์
ความขัดแย้งทางการเมืองในกรุงเคียฟ ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ระหว่างกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนการสานสัมพันธ์กับรัสเซีย กับพวกโปรตะวันตก ตลอดจนการลุกฮือของประชาชนในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศเพื่อเรียกร้องเอกราชจากรัฐบาลกลางในกรุงเคียฟ ส่งผลเลวร้ายอย่างสำคัญต่อเศรษฐกิจของยูเครน แม้ทางไอเอ็มเอฟ รวมถึงสหภาพยุโรป (อียู) จะให้คำมั่นมอบเงินช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่อยูเครนในวงเงินรวมกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 552,275 ล้านบาท)
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ยูเครนยังติดค้างค่าซื้อก๊าซธรรมชาติจากบริษัท “ก๊าซพรอม” ของรัสเซีย เป็นเงินไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 113,660 ล้านบาท) ขณะที่บริษัท “นาฟโตก๊าซ” ที่รัฐบาลยูเครนเป็นเจ้าของก็กำลังประสบภาวะล้มละลาย