เอเอฟพี - ประธานบริษัทเดินเรือเจ้าของเรือเฟอร์รีเกาหลีใต้ที่อับปาง จนทำให้มีผู้สูญหายและล้มตายราว 300 คนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ถูกจับกุมแล้วในวันนี้ (8 พ.ค.) ก่อนที่จะถูกทางการตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินกิจการ
อัยการระบุว่า คิม ฮันซิก ประธานฝ่ายบริหารของบริษัท “ชองแฮจิน มารีน” ถูกรวบตัวได้ที่บ้านของเขา และจะถูกทางการตั้งข้อหาภายหลังในวันนี้
ยัง จุงจิน อัยการอาวุโสบอกเอเอฟพีว่า “คิมจะต้องเผชิญกับข้อหาหลายข้อ เช่น ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และละเมิดกฎหมายพาณิชย์นาวี”
ข้อหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่คิมถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุสลดที่เกิดขึ้น หรืออาจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นปล่อยให้เรือเฟอร์รีที่มีระวางขับน้ำ 6,825 ตัน ลำนี้บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เรือลำนี้พลิกคว่ำ
ในเวลาเดียวกันกระทรวงมหาสมุทรและการประมงเกาหลีใต้ระบุว่า กำลังวางแผนสั่งปิดกิจการเดินเรือเฟอร์รีของชองแฮจินโดยทั้งหมด
ในการแถลง กระทรวงกล่าวว่าจะเริ่มเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินกิจการของบริษัท ในเส้นทางที่เรือเฟอร์รีเซวอลสัญจรผ่านคือตั้งแต่ท่าเรืออินชอนทางตะวันตก จรดเกาะเจจูทางใต้
พร้อมกันนั้น จะกดดันให้เหล่าเจ้าของกิจการคืนใบอนุญาตเดินเรือในอีก 2 เส้นทาง ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะต่างๆ ในพื้นที่ห่างไกล
โฆษกของกระทรวงกล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า “ชื่อบริษัท ‘ชองแฮจิน มารีน’ จะไม่มีวันทำให้อุตสาหกรรมเรือเฟอร์รีแปดเปื้อนได้อีกเป็นอันขาด”
ภายหลังถูกจับกุม คิมซึ่งใส่กุญแจมือ หมวกแก๊ป และสวมหน้ากากอนามัยปิดหน้าปิดตา ถูกนำมาแสดงตัวต่อหน้ากล้องจากสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
เขากล่าวว่า “ผมอยากขอโทษเหยื่อและครอบครัวของพวกเขา”
จากนั้น เขาปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ของผู้สื่อข่าว ด้วยการปิดปากเงียบและเอาแต่ก้มศีรษะ
กัปตันของเรือเฟอร์รี “เซวอล” ได้ถูกจับกุมพร้อมกับลูกเรืออีก 14 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับล่างของบริษัทชองแฮจิน มารีนอีก 4 คน
เรือเฟอร์รีที่บรรทุกลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 476 คนลำนี้ อับปางลงเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ภายหลังเสียสมดุลจนพลิกคว่ำ
ผลการสอบสวนเบื้องต้นชี้ว่า เรือลำนี้บรรทุกน้ำหนักเกินขีดจำกัดที่เรือสามารถแล่นได้อย่างปลอดภัยถึง 3 เท่า
ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันเมื่อล่าสุดในวันนี้ (8) อยู่ที่ 269 ราย ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 35 คน
โค มยุงซอก โฆษกกองบรรเทาสาธารณภัยรัฐบาลกลางกล่าวว่า ปฏิบัติการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตถูกเลื่อนออกไปอีก เนื่องจากสภาพลมฟ้าอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยหวั่นเกรงว่า คลื่นลมแรงอาจเป็นอันตรายต่อทีมนักประดาน้ำ
โคเปิดเผยว่า “จนถึงตอนนี้ มีนักประดาน้ำ 24 คนต้องเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บ และอาการเจ็บป่วยจากความดันใต้ทะเล”
การตายของนักประดาน้ำพลเรือนอาสาสมัครเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6) ได้จุดชนวนให้เกิดการโต้เถียงกันว่า ภารกิจค้นหาศพผู้เสียชีวิตควรดำเนินต่อไปถึงเมื่อไร
ยามฝั่งได้ให้คำมั่นว่า จะส่งเครนลอยน้ำขนาดยักษ์ไปให้หน่วยกู้ภัยยกเรือทันทีที่เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ยังติดอยู่ในเรือใต้น้ำขึ้นมาได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นักประดาน้ำจะสามารถงมศพบางส่วนขึ้นมาจากบริเวณที่ห่างออกไปจากจุดที่เรือลำนี้อับปางหลายกิโลเมตร แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ในเรือเป็นจำนวนเท่าใด