xs
xsm
sm
md
lg

ปลด ผอ.รพ.ซาอุฯ เซ่นไวรัส MERS - อนามัยโลกส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอับเดล ฟากีห์ รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย
เอเอฟพี - รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบีย แถลงปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัดในเมืองเจดดาห์ ออกจากตำแหน่ง หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) ในหมู่บุคลากรของโรงพยาบาล จนกระตุ้นความตื่นกลัวของประชาชนทั่วไป ขณะที่คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกเสร็จสิ้นภารกิจลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์แล้ว

นายอับเดล ฟากีห์ รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขแถลงปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัด ผ่านทวิตเตอร์ในช่วงค่ำวันอังคาร (6 พ.ค.) ไม่นานหลังจากเขาเดินทางลงตรวจแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแถบทะเลแดง

ขณะเดียวกัน ไม่นานหลังจากข่าวนี้หลุดออกมา ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็แถลงว่าพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลางเพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้ยอดเหยื่อรวมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 117 คนแล้ว โดยเหยื่อ 2 รายล่าสุดเป็นสตรีวัย 68 ปีของเมืองเจดดาห์ ส่วนอีกคนเป็นชายวัย 60 ปี เสียชีวิตที่เมืองเมดินา

โรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัดเคยต้องปิดบริการชั่วคราวเมื่อเดือนที่แล้ว หลังพบบุคลากรทางการแพทย์หลายคนติดเชื้อไวรัส ขณะที่ความตื่นตระหนก ณ โรงพยาบาลหลักของเมืองแถบทะเลแดงแห่งนี้ คือต้นตอการลาออกของแพทย์ 4 คน เพราะไม่ต้องการรักษาคนไข้เนื่องจากกลัวติดเชื้อ MERS

ราวหนึ่งสัปดาห์ก่อน ซาอุดีอาระเบียเพิ่งปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและแต่งตั้งนายฟากีห์ซึ่งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแรงงานเข้ามารักษาการแทน โดยสิ่งแรกที่นายฟากีห์ ซึ่งเคยย้ำคำสัญญาจัดการกับไวรัส MERS อย่างโปร่งใสลงมือก็คือปลดผู้อำนวยการโรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัดรวมถึงคณะผู้ช่วยของเขา

“จะมีการตั้งคณะทำงานชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในทันที” เขาโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่า “กระทรวงสาธารณสุขจะใช้ทุกมาตรการเชิงรุกเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายปกป้องสุขภาพของทุกคนในสังคม”

นับตั้งแต่ตรวจพบการแพร่ระบาดของ MERS เป็นครั้งแรก ทางภาคตะวันออกในเดือนกันยายน 2012 ก่อนต่อมามันจะลุกลามไปทั่วประเทศ จนถึงตอนนี้ซาอุดีอาระเบียมีผู้ติดเชื้อแล้วถึง 431 ราย ขณะที่นายฟากีห์ บอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะแถลงมาตรการระงับการแพร่ระบาดของไวรัส MERS ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากชาติตะวันตกและตัวแทนจากองค์การอนามัยโลก ได้พบปะหารือกันที่กรุงริยาด

องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยในวันพุธ (7) ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสมรณะชนิดนี้ที่เมืองเจดดาห์แล้ว หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

ทั้งนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลหลัก 2 แห่งของเมืองและพบว่าการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำด้านการป้องกันและมาตรการควบคุมการติดเชื้อขององค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกชี้ว่ายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของรูปแบบการติดต่อของไวรัส

โดยองค์การอนามัยโลกบอกว่า “จนถึงตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์ภายในชุมชนและรูปแบบการติดต่อโดยรวมยังไม่เปลี่ยนแปลง” พร้อมระบุ “การติดเชื้อระหว่างคนสู่คนส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในสถานพยาบาล ด้วย 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อเหล่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข” จึงเรียกร้องให้เพิ่มความรู้และปรับทัศนคติเกี่ยวกับไวรัส MERS แก่บุคลากรทางการแพทย์

ไวรัส MERS ถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน (SARS) ซึ่งเคยแพร่ระบาดในเอเชียเมื่อปี 2003 โดยครั้งนั้นมีผู้ติดเชื้อไวรัสซาร์สมากถึง 8,273 คน และร้อยละ 9 เสียชีวิต

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส MERS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนก่อนจะถึงพิธีฮัจญ์ ซึ่งจะมีชาวมุสลิมนับล้านๆ คนเดินทางมาแสวงบุญยังนครเมกกะและมะดีนะห์ โดยพิธีฮัจญ์ปีนี้จะตรงกับช่วงเดือนกันยายน

เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ยังอยู่ระหว่างศึกษาต้นตอและการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ ที่ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น