รอยเตอร์/เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียต่อสายตรงหารือทางโทรศัพท์ในวันเสาร์ (3) กับจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องรัฐบาลวอชิงตันใช้อิทธิพลของตนกดดันรัฐบาลใหม่ในกรุงเคียฟของยูเครน ให้ยุติการใช้ปฏิบัติการทางทหาร ในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในทันที ขณะเดียวกัน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มประชาชนที่หนุนรัสเซีย และพวกโปร ตะวันตกทางภาคใต้ของยูเครน
รายงานข่าวระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญขององค์กรว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ในฐานะคนกลางที่จะเข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง และกดดันให้รัฐบาลเคียฟ ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงลดความตึงเครียด ที่ทำกันไว้ ณ นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์
คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศแดนหมีขาวยังระบุว่า ลาฟรอฟได้ต่อสายตรงถึงฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีเช่นกัน โดยทั้งสองต่างแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเวลานี้ ที่ล่าสุดมีข่าวว่า รัฐบาลเคียฟเตรียมใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบเพื่อกวาดล้าง “กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซีย” ที่เคลื่อนไหวเพื่อปลดแอกพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนอยู่ในเวลานี้
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ราย หลังเกิดการปะทะกันบนท้องถนนที่เมืองโอเดสซา ทางภาคใต้ของยูเครนระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนรัสเซีย กับกลุ่มต่อต้านรัสเซีย โดยเหตุปะทะที่เกิดขึ้น ณ เมืองท่าริมชายฝั่งทะเลดำแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดการนองเลือดที่สุดในยูเครน นับตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ประธานาธิบดีที่มีจุดยืนใกล้ชิดกับรัสเซียอย่างนายวิคตอร์ ยานูโควิช ถูกรัฐสภายูเครนลงมติขับออกจากอำนาจ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์ทางทหารจำนวน 7 คนจากยุโรป ได้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วในวันเสาร์ (3) หลังจากที่พวกเขาถูกกลุ่มติดอาวุธที่นิยมรัสเซียจับตัวไปนานกว่า 8 วัน