รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนนับร้อยคนซึ่งมีจุดยืน “สนับสนุนรัสเซีย” ได้ก่อเหตุบุกเข้าไปยังอาคารที่ทำการของรัฐบาลในเมืองโดเนตส์ก เมืองสำคัญทางภาคตะวันออกของยูเครนในวันอาทิตย์ (6 เม.ย.) และมีการชูธงชาติรัสเซียเย้ยรัฐบาลยูเครน
รายงานข่าวระบุว่า สถานการณ์ในเมืองโดเนตส์กที่ถือเป็นบ้านของอดีตประธานาธิบดีที่มีจุดยืน “โปรรัสเซีย” อย่างนายวิกตอร์ ยานูโควิช กำลังทวีความตึงเครียดหนัก หลังเกิดการประท้วงของประชาชนซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซียเป็นรายวันเพื่อต่อต้านรัฐบาลใหม่ของยูเครนในกรุงเคียฟซึ่งมีจุดยืน “โปรยุโรป”
โดยล่าสุด มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงที่มีจุดยืนหนุนรัสเซียจำนวนกว่า 100 คน ได้บุกเข้าไปภายในที่ทำการรัฐบาลยูเครนในเมืองโดเนตส์ก และมีการชูธงชาติรัสเซีย เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลในกรุงเคียฟที่เป็นพวกฝักใฝ่ยุโรป
โดยรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ผู้ประท้วงที่บุกเข้าไปยังอาคารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 คนซึ่งนัดรวมตัวกันบริเวณจัตุรัสกลางเมืองโดเนตส์ก
ด้าน อิกอร์ ดีโอมิน โฆษกตำรวจยูเครนในเมืองโดเนตส์ก ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มผู้เข้าร่วมการประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาวซึ่งหลายรายปกปิดใบหน้า พร้อมเผยว่านอกเหนือจากกลุ่มผู้ประท้วงที่บุกเข้าไปในที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นแล้ว ยังมีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากที่รออยู่ด้านนอก และตะโกนคำว่า “รัสเซีย” รวมถึงถ้อยคำอื่นๆที่แสดงจุดยืนของกลุ่มผู้ประท้วงที่คัดค้านไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงที่มีจำนวนหลายสิบคนได้ก่อเหตุบุกเข้าไปยังสำนักงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนในเขต “ลูฮานส์ก” ที่อยู่ใกล้เคียงด้วยเช่นกัน หลังเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง เป็นเหตุให้มีผู้ประท้วง 2 รายและตำรวจ 1 นายได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ แม้วิกตอร์ ยานูโควิชจะถูกรัฐสภายูเครนในกรุงเคียฟ ลงมติขับออกจากการเป็นผู้นำประเทศไปแล้ว หลังเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลยานูโควิชที่มีจุดยืนโปรรัสเซียนานต่อเนื่องหลายเดือน แต่วิกฤตในยูเครนกลับยังไม่ยุติลงโดยง่าย หลังจากที่กลุ่มประชากรเชื้อสายรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนก่อการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ของยูเครนบ้าง
ขณะที่สาธารณรัฐปกครองตนเอง “ไครเมีย” ที่เป็นส่วนหนึ่งของยูเครน แต่ประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย ก็ได้จัดการลงประชามติแยกตัวจากยูเครน และยอมถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย จนก่อให้เกิดความตึงเครียดและการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกนับตั้งแต่สิ้นยุคสงครามเย็น
ล่าสุด โอเล็กซานเดอร์ ตูร์ชีนอฟ ประธานาธิบดีรักษาการของยูเครนประกาศยกเลิกแผนเดินทางเยือนลิธัวเนียแล้ว เพื่อรับมือกับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเขาระบุว่าเป็นความพยายามของ “พวกแบ่งแยกดินแดน” ที่ต้องการบ่อนทำลายเสถียรภาพของยูเครน
