รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการยูเครนกล่าวหารัสเซียในวันเสาร์ (15 มี.ค.) ว่ามีพฤติกรรมยั่วยุให้เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดในเมืองคาร์คิฟทางภาคตะวันออกของยูเครน
อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยของยูเครนเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนักเคลื่อนไหว ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนรัสเซียและฝ่ายหนุนรัฐบาลยูเครนได้ราว 30 คนจากเหตุปะทะกันอย่างดุเดือดที่ส่งผลให้มีชายวัย 20 ปีและ 31 ปี เสียชีวิตในคืนวันศุกร์ (14) ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนระบุว่า ในการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนรัสเซีย กับกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาตินิยมยูเครนในเมืองคาร์คิฟนั้น ทางการยูเครนพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างใช้อาวุธปืนต่อสู้กัน พร้อมกล่าวหาว่ารัฐบาลมอสโกอยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงในเมืองดังกล่าวและหลายพื้นที่ทั่วภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งมีประชากรเชื้อสายรัสเซียอาศัยอยู่จำนวนมาก
อวาคอฟยังกล่าวหาด้วยว่า บรรดาพันธมิตรทางการเมืองของอดีตประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช ผู้นำยูเครนที่มีจุดยืนโปรรัสเซียและเพิ่งถูกโค่นอำนาจ อยู่เบื้องหลังการให้เงินสนับสนุนแก่กลุ่มผู้ก่อความวุ่นวายในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนในเวลานี้
ด้านรัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำแถลงที่ระบุว่า รัสเซียเตรียมดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องประชาชนเชื้อสายรัสเซียในพื้นที่อื่นๆของยูเครน นอกเหนือจากพื้นที่คาบสมุทรไครเมียที่ตกอยู่ใต้การควบคุมของทหารจากมอสโกแล้ว พร้อมย้ำว่ารัสเซียจำเป็นต้องปกป้องชุมชนชาวรัสเซียในยูเครนที่กำลังหวาดกลัวอำนาจรัฐบาลใหม่ของยูเครนในกรุงเคียฟ
ขณะที่คอนสแตนติน โดลกอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาเปิดเผยผ่าน “ทวิตเตอร์” โดยระบุว่าพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นบ้านของประชากรเชื้อสายรัสเซียจำนวนหลายล้านคนกำลังตกอยู่ใต้ภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธของพวกชาตินิยมหัวรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนเร่งปราบปรามกลุ่มเคลื่อนไหวสุดโต่งฝ่ายขวาเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ โอเล็กซานเดอร์ ตูร์ชีนอฟ ประธานาธิบดีรักษาการของยูเครน ที่เพิ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจแทนวิคตอร์ ยานูโควิชเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ ออกมาระบุว่า กำลังทหารของรัสเซียพร้อมเปิดฉากรุกรานยูเครนได้ทุกเมื่อ แม้ทางกระทรวงต่างประเทศแดนหมีขาวจะออกโรงปฏิเสธในวันศุกร์ (14) ว่ามอสโกไม่มีแผนการบุกยูเครนก็ตาม
