เอเอฟพี - กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลยูเครนบุกเข้าสำนักงานใหญ่พรรคการเมืองของประธานาธิบดี วิคตอร์ ยานูโควิช และยึดเอาไว้เป็นระยะสั้นๆ เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) ไม่นานหลังจากที่เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างดุเดือดเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ ที่บริเวณรอบๆ รัฐสภาซึ่งอยู่ใกล้ๆ
ผู้ประท้วงเข้ายึดสำนักงานใหญ่ของพรรคดังกล่าวเอาไว้เป็นเวลาสั้นๆ หลังจากพวกเขาหลายร้อยคนระดมขว้างระเบิดขวดน้ำมัน (โมโลตอฟ ค็อกเทล) และบุกพังเข้าไป แต่ต่อมาก็พากันล่าถอย ขณะที่ควันไฟโขมงยังคงลอยขั้นจากอาคารบางส่วน ทั้งนี้ตามรายงานของผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ในเหตุการณ์
พวกเขาหันมาเล่นงานพรรคของยานูโควิช หลังจากที่เข้าต่อสู้กับตำรวจปราบจลาจลอย่างดุเดือดที่บริเวณรอบๆ อาคารรัฐสภายูเครน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ และก็เป็นจุดที่ผู้ประท้วงนับหมื่นคนซึ่งส่วนใหญ่ชุมนุมกันด้วยความสงบ ได้มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาผ่านกฎหมายลิดรอนอำนาจของประธานาธิบดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงกระสุนยาง ตลอดจนปาระเบิดควันและระเบิดแสงใส่กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งระดมขว้างก้อนหิน และจุดไฟเผารถบรรทุก 2 คัน ในเวลาที่พวกเขาพยายามฝ่าวงล้อมของตำรวจซึ่งตรึงกำลังอย่างแน่นหนาเพื่อเข้าไปในรัฐสภา
ทางด้าน กระทรวงมหาดไทยยูเครนออกคำแถลงระบุว่า มีตำรวจ 3 คนได้รับบาดเจ็บภายหลังที่กลุ่มผู้ชุมนุมขับรถบรรทุกพุ่งใส่เพื่อบุกเข้ารัฐสภา
นอกจากนั้น ยังมีช่างภาพคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแสงแรงดันสูงในช่วงชุลมุน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
เบื้องต้นหัวหน้าทีมแพทย์ของผู้ประท้วงระบุว่า จากการปะทะกันอย่างดุเดือดครั้งแรกภายหลังเงียบสงบไปหลายสัปดาห์ในคราวนี้ มีผู้ประท้วงเสียชีวิตไป 3 คน โดยมีบาดแผลจากการถูกยิง นอกจากนั้นมีคนเจ็บอีกประมาณ 150 คน ขณะที่ทางตำรวจก็แจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 47 คน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ออกมายืนยันว่ามีประชาชน 5 รายและตำรวจ 2 ราย เสียชีวิตเหตุปะทะที่แปรเปลี่ยนใจกลางกรุงเคียฟเป็นเขตแดนแห่งสงคราม
ทั้งนี้ บรรดาผู้ประท้วงกำลังเรียกร้องให้รัฐสภายูเครนซึ่งพรรคของยานูโควิชครองเสียงข้างมาก ลงมติให้นำรัฐธรรมนูญปี 2004 กลับมาประกาศใช้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะหมายถึงการถ่ายโอนอำนาจในมือประธานาธิบดีมาไว้ที่รัฐสภา
บรรดาผู้ชุมนุมได้เดินขบวนจากจัตุรัสเสรีภาพ ในกรุงเคียฟ จุดที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยังคงปักหลักอย่างเหนียวแน่น อยู่ใน “เมือง” ที่มีเต็นท์ของผู้ประท้วงขยายเต็มพื้นที่ ภายหลังที่การประท้วงต่อต้านระบอบปกครองยานูโควิชดำเนินมาได้เกือบ 3 เดือนแล้ว