โพลล่าสุดอ้าง ปชช. “เกินครึ่ง” ทางตะวันออกของยูเครน ไม่ต้องการอยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (19) ชี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในจังหวัด “โดเนตส์ก” จังหวัดใหญ่สุดทางภาคตะวันออกของยูเครน ไม่ต้องการถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพียงแต่ต้องการต่อต้านรัฐบาลใหม่ในกรุงเคียฟของยูเครน ที่ได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรม

ผลสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดยสถาบันสังคมวิทยาระหว่างประเทศในกรุงเคียฟ และมีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย “วีคลี มิร์เรอร์” ระบุว่า มีกลุ่มตัวอย่างเพียง 27.5 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย ขณะที่ราว 52.2 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนในจังหวัดโดเนตส์ก ซึ่งเป็นบ้านของประชากรราว 4.5 ล้านคนทางตะวันออกของยูเครน ไม่ได้ต้องการให้ดินแดนของตนถูกผนวกรวมเข้ากับรัสเซีย

โดยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 52.2 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวระบุ พวกตนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนต่อไป เพียงแต่ต้องการให้ยูเครนมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกระบวนการเลือกตั้งที่ชอบธรรม และเป็นรัฐบาลที่เคารพความแตกต่างของชาติพันธุ์ต่างๆภายในประเทศอย่างแท้จริง

นอกเหนือจากจังหวัดโดเนตส์กแล้ว ผลสำรวจดังกล่าวยังอ้างว่า ประชาชนในพื้นที่อื่นทางภาคตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ภาษารัสเซีย ไม่เห็นด้วยที่รัสเซียจะเข้ามากุมอำนาจเหนือดินแดนของตนสูงถึง 69.7 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้เข้าร่วมการสำรวจกว่า 3,200 คน

ผลสำรวจที่มีการเผยแพร่ล่าสุดบ่งชี้ว่า ประชาชนกว่า 74 เปอร์เซ็นต์ในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย มีความเห็นว่า รัฐบาลรักษาการในกรุงเคียฟภายใต้การนำของประธานาธิบดี โอเล็กซานเดอร์ ตูร์ชีนอฟ ที่มีจุดยืน “โปรตะวันตก” นั้น เป็นรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ หลังจากที่ได้ครองอำนาจเพราะกระบวนการปฏิวัติโดยรัฐสภาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ส่งผลให้รัฐบาลที่มีจุดยืน “โปรรัสเซีย” ของอดีตประธานาธิบดี วิคตอร์ ยานูโควิช ต้องกระเด็นออกจากอำนาจ

ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดมีขึ้นในขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่า รัสเซียยังคงกำลังทหารกว่า 40,000 นาย ไว้ประชิดพรมแดนยูเครน

โดยที่รัฐบาลมอสโกย้ำว่าตนเองมีสิทธิ์แทรกแซงด้วยกำลังทหารต่อยูเครน เพื่อปกป้อง “พลเรือนที่พูดภาษารัสเซีย” ทางภาคตะวันออกของยูเครนจากการถูกคุกคามและละเมิดสิทธิ์ แต่รัสเซียปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน ที่ก่อความไม่สงบทั่วภาคตะวันออกของยูเครนในเวลานี้