xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีใต้ส่ง “ใบปลิว” โจมตีโสมแดงนับแสนฉบับพร้อม “เงิน” ข้ามพรมแดนเปียงยางทาง “ลูกโป่งลอยฟ้า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิชาวเกาหลีใต้วันนี้ (3 พ.ค.) ออกมาแจกใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือทั่วพื้นที่ชายแดนประมาณ 200,000 ฉบับ โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจสร้างความโกรธแค้นให้แก่โสมแดง ชาติที่เน้นย้ำว่าโสมขาวควรป้องกันไม่ให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิราว 30 คนภายใต้การนำของ ปาร์ค ซังแฮก อดีตชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีออกนอกประเทศได้ส่งใบปลิวหลายปึกจากเมืองพาจู ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยผูกไปกับลูกโป่งลอยฟ้าลูกใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน

“พอกันทีกับความเผด็จการในสายเลือดของคิม จองอึน” ทั้งนี้ เป็นสโลแกนบนลูกโป่งใบหนึ่งซึ่งเหล่านักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคาดหวังให้ลอยข้ามพรมแดน ที่มีการวางกำลังทหารแน่นหนาไปถึงดินแดนเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ ใบปลิวเหล่านี้บรรจุอยู่ในห่อที่มีธนบัตรใบละหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ 2,000 ฉบับ ดีวีดีที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการลิดรอนสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ 400 แผ่น และหนังสือเล่มเล็กๆ ทีโอ้อวดถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อีก 300 เล่ม

ปาร์คกล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวว่า “เราส่งใบปลิวพวกนี้ไปเพื่อบอกชาวเกาหลีเหนือว่า ประชาคมนานาชาติกำลังพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพให้แก่พวกเขา”

อย่างไรก็ตาม ในละแวกใกล้เคียงกันนี้ มีเหล่าสมาชิกนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิฝ่ายซ้าย 9 คนจัดการชุมนุมเพื่อประท้วงการแจกใบปลิว เนื่องจากเห็นว่า การกระทำเช่นนี้มีแต่จะสร้างความตึงเครียดข้ามพรมแดน มากกว่าจะปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

เมื่อวันพฤหัสบดี (1) ในระหว่างที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังประชุมทบทวนสถานการณ์สิทธิในชาติเอเชียที่ถูกทิ้งให้โดดเกี่ยวแห่งนี้ ณ นครเจนีวา บรรดานักการทูตเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติโดยทันที

อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือ ซึ่งมีชาติพันธมิตรอย่างจีนคอยหนุนหลัง ได้ออกมาตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว โดยชี้ว่า รายงานฉบับล่าสุดของผู้ตรวจสอบจากยูเอ็นถูกออกแบบมาเพื่อ “ทำลายชื่อเสียง” ของเปียงยาง

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สองเกาหลีได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งมีขึ้นไม่บ่อย เป็นต้นว่า การที่สองประเทศให้คำมั่นว่า จะยุติการกล่าวโจมตีว่าร้ายกัน

ทว่า เพียงไม่นานหลังจากนั้น ข้อตกลงฉบับดังกล่าวก็ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อต่างฝ่ายต่างออกมาออกมากล่าวหากันและกันว่า ใช้วาจาใส่ร้ายป้ายสีผู้นำของตน


กำลังโหลดความคิดเห็น