เอเอฟพี - เกาหลีเหนือวันนี้ (27 เม.ย.) เปิดฉากโจมตีประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ด้วยวาจาเจ็บแสบ โดยเรียกว่าเธอ “โสเภณี” ซึ่งตกเป็นเบี้ยล่างของ “แมงดา” บารัค โอบามา ในเวลาที่โสมแดงเปิดเผยว่า พร้อมที่จะประกาศ “สงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ”
ในการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่เลวร้ายกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา โสมแดงกล่าวประณามความสัมพันธ์ระหว่าง “เจ้านายและหุ่นเชิด” ทั้งยังขู่ว่า ประธานาธิบดีพัคจะต้องชดใช้ “อย่างสาสม”
คณะกรรมาธิการเพื่อการรวบรวมชาติโดยสันติแห่งเกาหลี (ซีพีอาร์เค) ชี้ว่า “วิธีการที่ พัค กึน-ฮเย ปฏิบัติต่อโอบามาเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ต่างอะไรไปจากเด็กสาวเลวๆ ไม่รู้จักโตกำลังขอร้องให้อันธพาลช่วยทำร้ายคนที่เธอไม่ชอบ”
“หรือไม่ก็โสเภณีจอมมารยาที่กระเหี้ยนกระหือรือจะใส่ร้ายใครบางคน จนยอมเอาร่างกายเข้าแลกกับแมงดาผู้มีอิทธิพล” สำนักข่าวกลางเกาหลีใต้ (เคซีเอ็นเอ) ระบุ
การใช้คำพูดเสียดสีรุนแรงเช่นนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังประธานาธิบดี โอบามา แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ “ไม่มีใครยอมรับ” ซึ่งจะตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวยิ่งกว่านี้ หากยังดื้อดึงเดินหน้าทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 4 ในระหว่างที่เขาเดินทางเยือนเกาหลีใต้ 2 วัน
ภาพถ่ายจากดาวเทียมเมื่อเร็วๆ นี้เผยให้เห็นความเคลื่อนไหวที่สถานทดสอบนิวเคลียร์ ปุงกเย-รี ในเกาหลีเหนือ และเมื่อวันศุกร์ (25) ประธานาธิบดีพัคได้กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะดำเนินการทดสอบปรมาณูอีกครั้ง “ทุกเมื่อ”
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีของทั้งสองชาติได้ออกมาเตือนว่า หากเกาหลีเหนือไม่ยอมเคารพกฎกติกาของนานาชาติ ประเทศที่ยากจนแห่งนี้ก็จะต้องถูกคว่ำบาตรหนักขึ้นอีก ทั้งยังกระตุ้นให้จีนเข้าขัดขวางไม่ให้ชาติพันธมิตรผู้ดื้อดึงแสดงพฤติกรรมยั่วยุอีกครั้ง
ซีพีอาร์เค ซึ่งเป็นคณะบุคคลของเปียงยางที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกิจการที่จำเป็นต้องมีการประสานงานระหว่างสองเกาหลี ได้ออกมากล่าวประณามคำพูดของสองผู้นำว่าเป็น “การดูถูก (ผู้นำ) อย่างเหลือทน”
“ถ้าโอบามา และพัค กึน-ฮเยเชื่อว่า สามารถเปลี่ยนใจเราได้ด้วยวิธีขู่คุกคามและกรรโชก พวกเขาก็โง่จนไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว”
“โดยเฉพาะ พัค กึน-ฮเย ที่ยังจ้องทำลายศักดิ์ศรี ระบบ และโครงการนิวเคลียร์ของเราอย่างรุนแรง ขณะหารือร่วมกับโอบามา” คณะกรรมาธิการระบุ พร้อมกล่าวว่า คำพูดของพัคเป็นเพียงการพูดพล่ามไร้สาระ
“การเดินทางเยือนครั้งล่าสุดของโอบามาช่วยยืนยันเจตนารมณ์ของเรา ซึ่งอาจเป็นเพียงหนทางเดียวที่ใช้รับมือกับศัตรูเก่าอย่างสหรัฐฯ ได้ ทั้งยังเสริมสร้างความมุ่งมั่น และการตัดสินใจยึดถือนโยบายประกาศสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ”
“พัค กึน-ฮเยจะต้องชดใช้อย่างสาสม ที่เธอละทิ้งโอกาสที่เราเคยหยิบยื่น แล้วหันไปต่อต้านการรวมประเทศ และต่อต้านสันติภาพ ท้งยังเลือกการเผชิญหน้า และสงคราม”
คำบริภาษครั้งล่าสุดนี้มีขึ้น ภายหลังที่ในช่วงหลายเดือนมานี้ เกาหลีเหนือเริ่มหันมาใช้วาจาดุเด็ดเผ็ดร้อนโจมตีพัคอย่างเฉพาะเจาะจงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ลี มยุงบัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนก่อนหน้า ก็เคยถูกสื่อเกาหลีเหนือตั้งเป้าโจมตีโดยตรงเช่นกัน แต่เป็นที่สังเกตว่าโสมแดงมักโจมตีพัค ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ ในประเด็นเพศสภาวะซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนหน้านี้ เปียงยางเคยเปรียบเทียบว่า พัคเป็น “ผู้หญิงหยาบไร้การศึกษาที่ได้แต่พล่ามบ่นกับตัวเองตรงมุมห้อง” และถากถางว่าเธอเป็น “นักการเมืองคุณภาพต่ำ” ที่เอาแต่พูดจา “เหลวไหลไร้สาระ”
นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 พัค ได้เน้นย้ำถึงความต้องการสร้างความเชื่อมั่นร่วมกับเกาหลีเหนือเสมอมา ขณะที่ยืนหยัดว่าพร้อมเผชิญกับการยั่วยุใดๆ ก็ตามจากเปียงยาง
อย่างไรก็ตาม นโยบายของเธอไม่ได้รับเสียงตอบรับจากเกาหลีเหนือมากนัก ทั้งข้อเสนอให้กลับมารวมประเทศของเธอก็ถูกปฏิเสธด้วยความแค้นเคือง โดยเปียงยางกล่าวหาว่าเป็นแผนการกลืนเกาหลีเหนือของโซล
ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เมื่อสองเกาหลีระดมยิงโต้ตอบข้ามพรมแดนบริเวณทะเลเหลือง
ในระหว่างการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง เกาหลีเหนือได้กราดกระสุนไปตกในน่านน้ำเกาหลีใต้ราว 100 นัด จุดชนวนให้เกาหลีใต้ออกมายิงโต้ตอบ แต่กระสุนทั้งหมดตกลงไปในทะเลจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
