นร.เกาหลีใต้บนเรือเฟอร์รีเกาหลีใต้ โทร.แจ้งป็นสายแรกในเสี้ยววินาทีเรืออับปาง

เอเจนซีส์ - จากเหตุการณ์เรือโดยสารเฟอร์รีเซวอลของเกาหลีใต้ล่ม พบว่าหนึ่งในผู้โดยสารของเรือที่เป็นนักเรียนชายได้โทร. 119 ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ 3 นาที หลังจากที่เรือเฟอร์รีหักมุมครั้งสุดท้าย

สื่ออังกฤษ เดลีเมลรายงานว่า มีนักเรียนชายเกาหลีใต้ที่เป็นหนึ่งในผู้โดยสารเรือเฟอร์รีเซวอลได้โทร.แจ้ง 119 ถึงหน่วยดับเพลิงกู้ภัย ก่อนที่สายของเขาจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานยามฝั่งเกาหลีใต้ในอีก 2 นาทีหลังจากนั้น

และหลังจากสายของนักเรียชายผู้นี้แล้ว พบว่ามีนักเรียนคนอื่นบนเรือเฟอร์รีเซวอลอีกจำนวนกว่า 20 คนได้ใช้โทรศัพท์มือถือโทร.แจ้งเหตุการณ์เรือล่ม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้เปิดเผยกับรอยเตอร์

นักเรียนชายผู้แจ้งเหตุครั้งแรกชื่อ ชอย (Choi) โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและรีบร้อน โดยเขากล่าวว่า “ช่วยพวกเราด้วย พวกเราติดบนเรือที่ผมคิดว่ามันกำลังจม” ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงผู้รับสายเผยกับ MBC ทีวี ของเกาหลีใต้ว่า ทางหน่วยงานต้องใช้เวลาพักใหญ่เพื่อค้นหาเรือเฟอร์รีลำใดที่กำลังประสบเหตุ จนกระทั่งพบว่าเป็นเรือเฟอร์รีเซวอล และสำนักข่าวยอนฮับที่ได้อ้างคำพูดของชอยรายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ขอให้ชอยส่งโทรศัพท์ไปให้กัปตันเรือเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แต่ชอยถามกลับมาว่า “คุณหมายถึงอาจารย์ใช่ไหม” ทั้งนี้คำว่า “กัปตัน” และ “อาจารย์” ในภาษาเกาหลีมีการออกเสียงที่คล้ายกันมาก

นอกจากนี้ พยานในเหตุการณ์ยังเปิดเผยว่า ในขณะที่ผู้โดยสารถูกสั่งให้อยู่กับที่แต่ลูกเรือจำนวนหนึ่งรวมทั้งกัปตันเรือได้หลบหนีเอาตัวรอดทิ้งเรือไปในขณะที่เรือเฟอร์รีกำลังล่ม

แต่อย่างไรก็ตาม มีลูกเรือคนหนึ่งที่อาจถือว่าเธอเป็นเสมือนฮีโร่ในเหตุการณ์ครั้งนี้จากการที่เธออยู่บนเรือเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ติดอยู่ในขณะเกิดเหตุ

ปาร์ก จี-ยัง (Park Jee-Young) วัย 22 ปี แจกจ่ายเสื้อชูชีพให้แก่เหล่านักเรียนเพื่อช่วยให้พวกเขามีโอกาสรอดชีวิตในขณะที่เรือเฟอร์รีกำลังจมลงถึงแม้ว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อชูชีพอยู่ก็ตาม สื่อเกาหลีใต้รายงาน

พยานในเหตุการณ์ยังได้เปิดเผยกับยอนฮับต่อว่า ปาร์ก จี-ยังได้บอกกับเหล่านักเรียนว่า ลูกเรือทุกคนต้องอยู่บนเรือเฟอร์รีจนกระทั่งผู้โดยสารทุกคนได้ออกไปหมดแล้ว เธอจึงสามารถออกไปได้ และพบว่าร่างของปาร์ก จี-ยัง ถูกพบเป็นศพแรกๆ ที่ทางทีมนักประดาน้ำสามารถกู้ได้ และขณะนี้ร่างของเธอถูกส่งไปยังสถานฌาปนกิจอินชอน ที่มีทั้งดอกไม้และข้อความ “เราจะจดจำการเสียสละของคุณไว้ตลอดไป” และ “คุณคือผู้กล้า” ถูกประดับไว้ในบริเวณฌาปนสถาน ยอนฮับรายงาน

ด้านญาติของปาร์ก จี-ยังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสหรัฐฯ CNN ว่า “นี่เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมที่ จี-ยังของเราต้องจบชีวิตลงในขณะที่กัปตันเรือเฟอร์รีหลบหนีไป”

ทั้งนี้ จากประวัติของปาร์ก จี-ยังพบว่า เธอต้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพื่อทำงานที่บริษัทเรือเฟอร์รีแห่งนี้ หาเงินเงินจุนเจือครอบครัวหลังจากการเสียชีวิตของบิดา 2 ปีที่ผ่านมา

และมีรายงานว่า นอกจาก ปาร์ก จี-ยังแล้ว ลูกเรือคนอื่นยังได้สละเสื้อชูชีพของพวกเขาให้แก่ผู้โดยสารเรือในช่วงขณะเกิดเหตุ และคนอื่นบนเรือกู้ภัยใช้ค้อนทุบกระจกหน้าต่างและดึงผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในห้องเคบินโดยสารให้ออกมา

ในขณะนี้ปรากฏว่ามีลูกเรือ 7 คนจากทั้งหมด 29 คนนั้นอยู่ในสถานะสูญหายหรือเสียชีวิต และลูกเรืออื่นที่รอดชีวิตยังคงรออยู่ใกล้ๆเรือเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสาร เอพีรายงาน

เมื่อวานนี้ (22) ลูกเรือ 4 คนปรากฏตัวในชั้นศาล ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับกองทัพนักข่าวสั้นๆ และถูกพาตัวกลับไปฝากขังต่อที่เรือนจำต่อไป

ต้นหนของเรือเฟอร์รีคนหนึ่งที่ไม่ได้ระบุชื่อเปิดเผยว่า เขาพยายามจะไปให้ถึงเรือชูชีพแต่ทำไม่ได้เพราะเรือเอียงมาก และพบว่ามีเรือชูชีพเพียง 2 ลำจากทั้งหมด 46 ลำที่ถูกใช้

ต้นเรือ 2 คน ต้นหน 1 คน และต้นกล อีก 1 คน ที่ถูกจับกุมล่าสุดเมื่อวานนี้ (22) ยืนก้มหน้า และเสียงที่เปล่งออกมาเบามากจนยากที่จะเดาว่าใครเป็นผู้พูด โดยหนึ่งในนั้นกล่าวว่า ความผิดพลาดเกิดขึ้นเพราะเรือหักมุม ในขณะที่อีกคนพูดถึงคำสั่งอพยพในท้ายที่สุด โดยเขากล่าวว่า ลูกเรือได้มารวมตัวกันที่ห้องสะพานเดินเรือและพยายามสร้างความสมดุลแต่ก็ไม่สำเร็จ และลูกเรือกล่าวว่า บางที่เครื่องถือท้าย (Steering Gear)คงพังไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สื่อเกาหลีใต้รายงานว่าเรือเฟอร์รีเซวอลขาดไฟฟ้านานถึง 36 วินาที ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัย

และก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ (18) CNN รายงานว่า ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยมปลาย Ansan Danwon High School ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือโดยสารล่มพบแขวนคอตายใต้ต้นไม้

กัง มุน คู (Kang Min Kyu) วัย 52 ปีที่เป็นหนึ่งในผู้โดยสารเรือเฟอร์รีเซวอลพร้อมกับนักเรียนอีกร่วม 300 คน ใช้เข็มขัดแขวนคอตนเองจนเสียชีวิตใต้ต้นไม้ใกล้โรงยิม ในจินโด ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับญาติของผู้โดยสารรอคอยอยู่ที่นั่น โดยเขาเป็นผู้โดยสารในกลุ่มแรกๆ ที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้