เอเอฟพี - สื่อมวลชนของเกาหลีใต้รายงานข่าวกัปตันเรือเฟอร์รีที่อับปางเมื่อ 3 วันก่อน ถูกจับกุมตัวแล้วในช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (19) ขณะที่นักประดาน้ำสามารถฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวและทัศนวิสัยใกล้ศูนย์เข้าไปในเรือที่พลิกคว่ำได้เป็นครั้งแรก แต่ความหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมยังเลือนราง
สำนักข่าวยอนฮับรายงานในวันเสาร์ (19) ว่านายลี จุน-ซก กัปตันเรือ เวลานี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังและเจอข้อกล่าวหาในฐานความผิด 5 กระทง ในนั้นรวมถึงละเลยต่อหน้าที่และละเมิดกฎหมายพาณิชย์นาวี
ก่อนหน้านี้ในช่วงค่ำวันศุกร์ (18) อัยการเกาหลีใต้ขอให้ศาลออกหมายจับกัปตันและลูกเรือ 2 คนโดยไม่ได้พาดพิงถึงข้อกล่าวหาอย่างเฉพาะเจาะจง ในเหตุเรือเฟอร์รีซึ่งบรรทุกเด็กนักเรียนหลายร้อยคน เกิดอับปางเมื่อ 2 วันก่อน และจากข้อมูลที่มีการยืนยันล่าสุด พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 28 ศพ แต่ยังสูญหายถึง 268 ราย จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 475 คน
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า จากนั้นไม่นานศาลในเมืองมกโพก็อนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน โดยอ้างความเป็นไปได้ที่เหล่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือไปทำลายหลักฐาน
อัยการบอกว่าจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าตอนที่เรืออับปาง กัปตันรายนี้มอบหมายหน้าที่ควบคุมเรือแก่ผู้ช่วยที่ 3 ขณะที่ข้อมูลการเดินเรือของกระทรวงพาณิชย์นาวีพบว่าเรือเฟอร์รีมรณะลำนี้หักเลี้ยวอย่างกะทันหันก่อนที่จะส่งสัญญาณแจ้งเหตุในช่วงเช้าวันพุธ (16)
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่าการเลี้ยวในลักษณะหักมุมในพื้นที่แคบอาจทำให้สินค้าที่มีน้ำหนักมากบนเรือ ซึ่งรวมทั้งรถยนต์มากกว่า150 คันเคลื่อนที่ไปอยู่ข้างเดียวกันของเรือ และทำให้เรือเสียการทรงตัวรับน้ำหนักอยู่ข้างเดียวจากนั้นก็ค่อยๆ จม แต่คนอื่นๆ สันนิษฐานว่าเหตุที่เรือหักมุมมากขนาดนั้น อาจเป็นเพราะชนเข้ากับหินโสโครกหรือวัตถุอื่นๆ ที่โผล่ขึ้นมาจากทะเล
ญาติๆ บางส่วนยังหวังว่าบุคคลอันเป็นที่รักยังคงมีชีวิตรอด ด้วยอาจไปอยู่ตามช่องอากาศที่ไหนสักแห่ง แต่ด้วยวันเวลาที่ล่วงเลยมา 3 วันแล้ว ความหวังของพวกเขาดูจะเหลือน้อยเต็มทน
อย่างไรก็ตามในส่วนของปฏิบัติการกู้กัย ได้มีความคืบหน้าครั้งสำคัญในช่วงบ่ายวันศุกร์ (18) เมื่อทีมประดาน้ำสามารถเข้าไปยังตัวเรือได้แล้ว กว่า 48 ชั่วโมงหลังจากเรือเซวอลอับปาง และได้ดำเนินการเจาะเติมอากาศให้เรือลอยขึ้นแล้วเช่นกัน
หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง นักประดาน้ำ 2 คนใช้เครื่องมืองัดจนสามารถเปิดประตูและเข้าไปยังส่วนที่เก็บสินค้า ทว่าก็ไม่พบศพหรือผู้รอดชีวิตแต่อย่างใด “ปฏิบัติการค้นหาจะดำเนินไปตลอดทั้งคืน” เจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งบอก “วิสัยทัศน์แทบเป็นศูนย์ คุณแทบมองไม่เห็นมือที่ชูขึ้นมาตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ” หนึ่งในนักประดาน้ำระบุ หลังจากกลับมายังท่าเรือบนเกาะจินโด ที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เครนยักษ์ลอยน้ำ 4 ตัวเคลื่อนตัวไปถึงพื้นที่กู้ภัยแล้วในวันศุกร์ (18) แต่นายคิม ซู-ฮยุน ผู้บังคับการยามชายฝั่งท้องถิ่น ยืนกรานว่าจะยังไม่เริ่มต้นยกเรือซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะตัวเรือมากถึง 6,825 ตัน ขึ้นมาจนกว่าพวกเขาจะแน่ใจว่าไม่มีผู้รอดชีวิตอยู่ภายในแล้ว
ทั้งนี้เครนยักษ์แต่ละตัวมีน้ำหนัก 2,300 ตัน 2,000 ตัน 1,200 ตัน และ 3,350 ตัน