(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)
China tightens case against Zhou
By Radio Free Asia
16/04/2014
ตามความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ รายงานต่างๆ ทางสื่อมวลชนในประเทศจีนขณะนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่าคณะบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังเพิ่มทวีความพยายามในการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้เล่นงาน โจว หย่งคัง อดีตบิ๊กบอสคุมงานความมั่นคงที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอำนาจเหลือล้น ทั้งนี้จากรายงานที่เปิดเผยกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่อีก 2 คนจากมณฑลเสฉวน และจากบริษัทรัฐวิสาหกิจน้ำมันใหญ่ที่สุดของแดนมังกร ซึ่งอดีตผู้นำผู้นี้เคยเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ กำลังถูกสอบสวนด้วยข้อหา “ละเมิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง”
ตามความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ ความเคลื่อนไหวของปักกิ่งที่นำตัวพันธมิตรอีก 2 คนของ โจว หย่งคัง (Zhou Yongkang) อดีตบิ๊กบอสผู้คุมงานด้านความมั่นคงของแดนมังกร มาสอบสวนเช่นนี้ น่าที่จะเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า คณะบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังสาละวนอยู่กับการเพิ่มทวีความพยายามในการรวบรวมหลักฐานเพื่อใช้เล่นงานผู้นำที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอำนาจล้นเหลือผู้นี้
สื่อมวลชนจีนและพวกเจ้าหน้าที่ของจีนระบุว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนจากแวดวงอิทธิพลของ โจว กำลังถูกสอบสวนในความผิดฐาน “ละเมิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง” ซึ่งเป็นวลีที่มักถูกใช้เพื่อหมายถึงการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบวินัย แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้โพสต์คำแถลงที่มีข้อความเพียงประโยคเดียวเอาไว้บนเว็บไซต์ของตนเมื่อวันเสาร์ที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า กำลังสอบสวน เจ้า เหมียว (Zhao Miao) เจ้าหน้าที่พรรคคนสำคัญคนหนึ่งในมณฑลเสฉวน โดยที่ โจว ก็ได้เคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคสาขามณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแห่งนี้ในช่วงระหว่างปี 1999 ถึง 2002
ขณะเดียวกัน นิตยสารไฉซิน (Caixin) ของจีนซึ่งมีเนื้อหาทันสมัยและโดดเด่นเรื่องการเสนอรายงานข่าวการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็รายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกันนั้นเอง พวกเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจยังได้จับกุม เหยียน ชุนจาง (Yan Cunzhang) ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายความร่วมมือต่างประเทศ ของบริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอมพานี (China National Petroleum Company ใช้อักษรย่อว่า CNPC) บริษัทรัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแดนมังกร โดยที่ โจว ก็เคยเป็นนายใหญ่ของบริษัทแห่งนี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1990
การที่ โจว สามารถก้าวผงาดในทางการเมืองได้อย่างโดดเด่นเช่นที่ผ่านมา ที่สำคัญแล้วเนื่องจากอาศัยฐานอำนาจสำคัญ 2 ฐานนี้เอง ได้แก่ มณฑลเสฉวน และอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งทางการจีนควบคุมอย่างหนาแน่น
ขณะที่จีนยังไม่ได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการใดๆ ว่ามีการดำเนินการสอบสวนถึงตัว โจว แล้ว แต่รายงานกระแสต่างๆ ระบุว่า พวกสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิดกับตัว โจว หลายต่อหลายคน ตลอดจนพันธมิตรทางการเมืองรายสำคัญๆ และผู้สนับสนุนบางคน กำลังถูกควบคุมตัวไปสอบสวน
“เคยมีข่าวลือหนาหูว่า เรื่องนี้ (การที่โจวถูกสอบสวนเล่นงาน) จะมีการแถลงออกมาให้สาธารณชนรับรู้กันในเดือนธันวาคมที่แล้ว แต่แล้วก็ไม่ได้มีการแถลงอะไรทั้งสิ้น” หยาง จี้เซิง (Yang Jisheng) อดีตนักหนังสือพิมพ์ของสำนักข่าวซินหวา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการของนิตยสารการเมือง “เหยียนหวง ชุนชิว” (Yanhuang Chunqiu) บอก
หยางให้ความเห็นว่า พวกเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคงตัดสินใจที่จะดำเนินการสอบสวนอย่างเงียบๆ ไปก่อน ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากเพียงพอสำหรับคดีนี้
“นี่น่าจะหมายความว่า คดีนี้ยังไม่น่าที่จะล้มครืนลงไป” เขากล่าว “หรือไม่มันก็อาจจะหมายความว่า เวลานี้ได้เกิดอุปสรรคชนิดซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งที่จะ (ดำเนินการฟ้องร้อง) ในคดีนี้”
**การปรากฏตัวของ หู จิ่นเทา**
ทางด้าน เกา อี๋ว์ (Gao Yu) นักหนังสือพิมพ์ผู้คร่ำหวอดซึ่งพำนักพักพิงอยู่ในปักกิ่ง มองว่า การที่ หู จิ่นเทา ซึ่งเป็นประธานาธิบดีจีนและเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน คนก่อนหน้า สี จิ้นผิง ได้ออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนเมื่อเร็วๆ นี้ บ่งบอกให้ทราบว่า เวลานี้ สี กำลังพยายามรวมศูนย์อำนาจของเขา ให้สนับสนุนยืนอยู่เบื้องหลังการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเขาเริ่มต้นเปิดฉากขึ้นมา หลังเข้ากุมบังเหียนของพรรคในเดือนพฤศจิกายน 2012
พวกผู้สังเกตการณ์ต่างเห็นพ้องกันว่า การที่ หู เดินทางไปเยือนมหาวิทยาลัยหูหนาน ในวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยที่สื่อมวลชนของรัฐเฝ้าเกาะติดทำข่าวอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาได้ก็ด้วยการรับรู้และการหนุนหลังอย่างเต็มที่ของ สี เท่านั้น
เรื่องนี้ยังอาจจะถูกใช้เป็นเครื่องย้ำยืนยันสร้างความมั่นใจ ให้แก่บรรดาสมาชิกของฐานอำนาจของ หู ซึ่งอยู่ในสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ (Communist Youth League) ในขณะที่การสืบสวนสอบสวนพวกพันธมิตรของ โจว กำลังขยายตัวกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นได้ จาง หลี่ฟาน (Zhang Lifan) นักประวัติศาสตร์ที่พำนักอยู่ในปักกิ่ง บอกกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (South China Morning Post) ของฮ่องกง ในตอนที่ข่าวของ หู กำลังถูกเผยแพร่อย่างใหญ่โตทางสื่อทางการจีน
“หู จิ่นเทา กำลังเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าให้ความสนับสนุน สี จิ้นผิง หลังจากที่เขาอยู่ในสภาพที่ไม่มีบทบาททางการเมืองอะไรเลยจริงๆ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 เป็นต้นมา และกำลังพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ ที่สุด” เกา กล่าว
“หู จิ่นเทา อาจจะพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ก็จริง แต่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ (การที่เขาไปเยือนมหาวิทยาลัยหูหนาน) มันไม่มีอะไรที่เป็นการเก็บเนื้อเก็บตัวโลว์โปรไฟล์เอาเลย” เธอย้ำ
“ฉันตีความเรื่องนี้ว่า หมายความว่า หู จิ่นเทา กำลังแสดงความสนับสนุนยุทธศาสตร์ทางการเมืองโดยองค์รวม ตลอดจน ... แง่มุมเฉพาะเจาะจงบางแง่มุมของการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นนั่นเอง”
**ตั้งข้อหาโจว**
มีการคาดเดากะเก็งกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาเป็นแรมเดือนแล้วว่า คณะผู้นำพรรคที่นำโดย สี จิ้นผิง อาจจะกำลังเตรียมตัวให้พรักพร้อม เพื่อตั้งข้อหาดำเนินคดีเอากับ โจว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 71 ปี ในความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชั่นและใช้อำนาจโดยมิชอบ
โจวนั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นพี่เลี้ยงผู้คอยช่วยเหลือบ่มเพาะด้านการเมืองให้ โป๋ ซีไหล (Bo Xilai) อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขามหานครฉงชิ่ง ซึ่งปัจจุบันต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ เขาก้าวลงจากตำแหน่งหน้าที่ของเขาในฐานะที่เป็น สมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo standing committee) แห่งคณะกรรมการกลางพรรค ตลอดจนเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการกิจการการเมืองและกฎหมาย (Politburo standing committee) แห่งคณะกรรมการกลางพรรค เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 โดยที่พวกนักวิเคราะห์ทางการเมืองต่างบอกว่า ในขณะที่ยังนั่งเก้าอี้ทั้ง 2 ตัวนี้ เขาถืออำนาจเอาไว้ในมือมากมายมหาศาล
ทั้งนี้เขาเป็นผู้กำกับควบคุมระบบ “การรักษาเสถียรภาพ” ในระดับทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้รับความยินยอมให้เพิ่มงบประมาณด้านการรักษาความมั่นคงภายในขึ้นอย่างพรวดพราด ครั้นเมื่อเขาพ้นจากอำนาจไป ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการการเมืองและกฎหมายส่วนกลาง ของเขา ก็ได้ถูกลดระดับความสำคัญลง โดยเวลานี้จะต้องขึ้นต่อคณะกรรมการประจำกรมการเมือง
ถ้าหากคณะผู้บริหารของสี ซึ่งเคยให้คำมั่นว่าจะติดตามไล่ล่าแม้กระทั่ง “เสือร้าย” ตำแหน่งสูงๆ ในการรณรงค์ปราบปรามการทุจริตที่เริ่มต้นขึ้นในปีที่แล้ว ออกมาแถลงเรื่องการสอบสวนเอาผิดกับโจวจริงๆ อดีตสมาชิกในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองผู้นี้ ก็จะกลายเป็นนักการเมืองอาวุโสที่สุดของจีน ซึ่งถูกจับกุมในคดีฉาวโฉ่ทุจริตคอร์รัปชั่น ในยุคที่พรรคคอมมิวนิสต์ครองบ้านครองเมือง
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เคยรายงานว่า พรรคได้ยึดทรัพย์สินต่างๆ ที่โยงใยเกี่ยวข้องกับโจว ไปแล้วรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาเดียวกันนั้น ญาติๆ ของเขาหลายคนก็ยืนยันว่า น้องชายคนที่ 2 ของเขา และบุตรชายของน้องคนนี้ ได้ถูกจับกุมคุมขัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวน
นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า การสืบสวนสอบสวนที่กำลังดำเนินอยู่นี้ คือรูปแบบหนึ่งของการแก้แค้นทางการเมือง หลังจากที่ โจว เคยทำให้ สี และพวกผู้นำตำแหน่งสูงๆ คนอื่นๆ โกรธเกรี้ยว จากการที่คัดค้านต้านทานไม่ยอมให้ขับอดีตเลขาธิการพรรคสาขามหานครฉงชิ่ง โป๋ ซีไหล ผู้ถูกลงโทษติดคุกตลอดชีวิตตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
จู ฉินตี (Zhu Qindi) ภรรยาของ โจว เสี่ยวฮัว (Zhou Xiaohua) หลานชายของโจว หย่งคัง ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่กำลังถูกนำมาใช้เล่นงานครอบครัวของเธอ ระหว่างที่เธอให้สัมภาษณ์ “วิทยุเอเชียเสรี” ตอนต้นเดือนนี้ โดยระบุว่า ครอบครัวของเธอกำลัง “ถูกระรานหาเรื่อง” โดยคณะบริหารของสี
เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อของทางการจีนได้รายงานถึงเรื่องการสอบสวนที่โยงใยพาดพิงถึงตัวโจว เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ปรากฏรายงานซึ่งไม่มีการยืนยันในเรื่องนี้สะพัดออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (ถึงแม้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการสอบสวนตัวโจวโดยตรงก็ตาม)
หยาง ฟาน (Yang Fan) เป็นผู้รายงานข่าวนี้ให้แก่ภาคภาษาจีนกลาง (Mandarin Service) ของวิทยุเอเชียเสรี โดยที่มี ลุยเซตตา มูดี (Luisetta Mudie) เป็นผู้แปลและเขียนรายงานข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษ
วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต
China tightens case against Zhou
By Radio Free Asia
16/04/2014
ตามความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ รายงานต่างๆ ทางสื่อมวลชนในประเทศจีนขณะนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่าคณะบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังเพิ่มทวีความพยายามในการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้เล่นงาน โจว หย่งคัง อดีตบิ๊กบอสคุมงานความมั่นคงที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอำนาจเหลือล้น ทั้งนี้จากรายงานที่เปิดเผยกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่อีก 2 คนจากมณฑลเสฉวน และจากบริษัทรัฐวิสาหกิจน้ำมันใหญ่ที่สุดของแดนมังกร ซึ่งอดีตผู้นำผู้นี้เคยเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ กำลังถูกสอบสวนด้วยข้อหา “ละเมิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง”
ตามความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ ความเคลื่อนไหวของปักกิ่งที่นำตัวพันธมิตรอีก 2 คนของ โจว หย่งคัง (Zhou Yongkang) อดีตบิ๊กบอสผู้คุมงานด้านความมั่นคงของแดนมังกร มาสอบสวนเช่นนี้ น่าที่จะเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า คณะบริหารของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังสาละวนอยู่กับการเพิ่มทวีความพยายามในการรวบรวมหลักฐานเพื่อใช้เล่นงานผู้นำที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอำนาจล้นเหลือผู้นี้
สื่อมวลชนจีนและพวกเจ้าหน้าที่ของจีนระบุว่า เจ้าหน้าที่ 2 คนจากแวดวงอิทธิพลของ โจว กำลังถูกสอบสวนในความผิดฐาน “ละเมิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง” ซึ่งเป็นวลีที่มักถูกใช้เพื่อหมายถึงการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบวินัย แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้โพสต์คำแถลงที่มีข้อความเพียงประโยคเดียวเอาไว้บนเว็บไซต์ของตนเมื่อวันเสาร์ที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า กำลังสอบสวน เจ้า เหมียว (Zhao Miao) เจ้าหน้าที่พรรคคนสำคัญคนหนึ่งในมณฑลเสฉวน โดยที่ โจว ก็ได้เคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคสาขามณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแห่งนี้ในช่วงระหว่างปี 1999 ถึง 2002
ขณะเดียวกัน นิตยสารไฉซิน (Caixin) ของจีนซึ่งมีเนื้อหาทันสมัยและโดดเด่นเรื่องการเสนอรายงานข่าวการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็รายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกันนั้นเอง พวกเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจยังได้จับกุม เหยียน ชุนจาง (Yan Cunzhang) ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายความร่วมมือต่างประเทศ ของบริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอมพานี (China National Petroleum Company ใช้อักษรย่อว่า CNPC) บริษัทรัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแดนมังกร โดยที่ โจว ก็เคยเป็นนายใหญ่ของบริษัทแห่งนี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1990
การที่ โจว สามารถก้าวผงาดในทางการเมืองได้อย่างโดดเด่นเช่นที่ผ่านมา ที่สำคัญแล้วเนื่องจากอาศัยฐานอำนาจสำคัญ 2 ฐานนี้เอง ได้แก่ มณฑลเสฉวน และอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งทางการจีนควบคุมอย่างหนาแน่น
ขณะที่จีนยังไม่ได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการใดๆ ว่ามีการดำเนินการสอบสวนถึงตัว โจว แล้ว แต่รายงานกระแสต่างๆ ระบุว่า พวกสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิดกับตัว โจว หลายต่อหลายคน ตลอดจนพันธมิตรทางการเมืองรายสำคัญๆ และผู้สนับสนุนบางคน กำลังถูกควบคุมตัวไปสอบสวน
“เคยมีข่าวลือหนาหูว่า เรื่องนี้ (การที่โจวถูกสอบสวนเล่นงาน) จะมีการแถลงออกมาให้สาธารณชนรับรู้กันในเดือนธันวาคมที่แล้ว แต่แล้วก็ไม่ได้มีการแถลงอะไรทั้งสิ้น” หยาง จี้เซิง (Yang Jisheng) อดีตนักหนังสือพิมพ์ของสำนักข่าวซินหวา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการของนิตยสารการเมือง “เหยียนหวง ชุนชิว” (Yanhuang Chunqiu) บอก
หยางให้ความเห็นว่า พวกเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคงตัดสินใจที่จะดำเนินการสอบสวนอย่างเงียบๆ ไปก่อน ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากเพียงพอสำหรับคดีนี้
“นี่น่าจะหมายความว่า คดีนี้ยังไม่น่าที่จะล้มครืนลงไป” เขากล่าว “หรือไม่มันก็อาจจะหมายความว่า เวลานี้ได้เกิดอุปสรรคชนิดซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งที่จะ (ดำเนินการฟ้องร้อง) ในคดีนี้”
**การปรากฏตัวของ หู จิ่นเทา**
ทางด้าน เกา อี๋ว์ (Gao Yu) นักหนังสือพิมพ์ผู้คร่ำหวอดซึ่งพำนักพักพิงอยู่ในปักกิ่ง มองว่า การที่ หู จิ่นเทา ซึ่งเป็นประธานาธิบดีจีนและเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน คนก่อนหน้า สี จิ้นผิง ได้ออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนเมื่อเร็วๆ นี้ บ่งบอกให้ทราบว่า เวลานี้ สี กำลังพยายามรวมศูนย์อำนาจของเขา ให้สนับสนุนยืนอยู่เบื้องหลังการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเขาเริ่มต้นเปิดฉากขึ้นมา หลังเข้ากุมบังเหียนของพรรคในเดือนพฤศจิกายน 2012
พวกผู้สังเกตการณ์ต่างเห็นพ้องกันว่า การที่ หู เดินทางไปเยือนมหาวิทยาลัยหูหนาน ในวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา โดยที่สื่อมวลชนของรัฐเฝ้าเกาะติดทำข่าวอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาได้ก็ด้วยการรับรู้และการหนุนหลังอย่างเต็มที่ของ สี เท่านั้น
เรื่องนี้ยังอาจจะถูกใช้เป็นเครื่องย้ำยืนยันสร้างความมั่นใจ ให้แก่บรรดาสมาชิกของฐานอำนาจของ หู ซึ่งอยู่ในสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ (Communist Youth League) ในขณะที่การสืบสวนสอบสวนพวกพันธมิตรของ โจว กำลังขยายตัวกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นได้ จาง หลี่ฟาน (Zhang Lifan) นักประวัติศาสตร์ที่พำนักอยู่ในปักกิ่ง บอกกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (South China Morning Post) ของฮ่องกง ในตอนที่ข่าวของ หู กำลังถูกเผยแพร่อย่างใหญ่โตทางสื่อทางการจีน
“หู จิ่นเทา กำลังเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าให้ความสนับสนุน สี จิ้นผิง หลังจากที่เขาอยู่ในสภาพที่ไม่มีบทบาททางการเมืองอะไรเลยจริงๆ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 เป็นต้นมา และกำลังพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ ที่สุด” เกา กล่าว
“หู จิ่นเทา อาจจะพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ก็จริง แต่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ (การที่เขาไปเยือนมหาวิทยาลัยหูหนาน) มันไม่มีอะไรที่เป็นการเก็บเนื้อเก็บตัวโลว์โปรไฟล์เอาเลย” เธอย้ำ
“ฉันตีความเรื่องนี้ว่า หมายความว่า หู จิ่นเทา กำลังแสดงความสนับสนุนยุทธศาสตร์ทางการเมืองโดยองค์รวม ตลอดจน ... แง่มุมเฉพาะเจาะจงบางแง่มุมของการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นนั่นเอง”
**ตั้งข้อหาโจว**
มีการคาดเดากะเก็งกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาเป็นแรมเดือนแล้วว่า คณะผู้นำพรรคที่นำโดย สี จิ้นผิง อาจจะกำลังเตรียมตัวให้พรักพร้อม เพื่อตั้งข้อหาดำเนินคดีเอากับ โจว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 71 ปี ในความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชั่นและใช้อำนาจโดยมิชอบ
โจวนั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นพี่เลี้ยงผู้คอยช่วยเหลือบ่มเพาะด้านการเมืองให้ โป๋ ซีไหล (Bo Xilai) อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขามหานครฉงชิ่ง ซึ่งปัจจุบันต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ เขาก้าวลงจากตำแหน่งหน้าที่ของเขาในฐานะที่เป็น สมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo standing committee) แห่งคณะกรรมการกลางพรรค ตลอดจนเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการกิจการการเมืองและกฎหมาย (Politburo standing committee) แห่งคณะกรรมการกลางพรรค เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 โดยที่พวกนักวิเคราะห์ทางการเมืองต่างบอกว่า ในขณะที่ยังนั่งเก้าอี้ทั้ง 2 ตัวนี้ เขาถืออำนาจเอาไว้ในมือมากมายมหาศาล
ทั้งนี้เขาเป็นผู้กำกับควบคุมระบบ “การรักษาเสถียรภาพ” ในระดับทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้รับความยินยอมให้เพิ่มงบประมาณด้านการรักษาความมั่นคงภายในขึ้นอย่างพรวดพราด ครั้นเมื่อเขาพ้นจากอำนาจไป ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกิจการการเมืองและกฎหมายส่วนกลาง ของเขา ก็ได้ถูกลดระดับความสำคัญลง โดยเวลานี้จะต้องขึ้นต่อคณะกรรมการประจำกรมการเมือง
ถ้าหากคณะผู้บริหารของสี ซึ่งเคยให้คำมั่นว่าจะติดตามไล่ล่าแม้กระทั่ง “เสือร้าย” ตำแหน่งสูงๆ ในการรณรงค์ปราบปรามการทุจริตที่เริ่มต้นขึ้นในปีที่แล้ว ออกมาแถลงเรื่องการสอบสวนเอาผิดกับโจวจริงๆ อดีตสมาชิกในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองผู้นี้ ก็จะกลายเป็นนักการเมืองอาวุโสที่สุดของจีน ซึ่งถูกจับกุมในคดีฉาวโฉ่ทุจริตคอร์รัปชั่น ในยุคที่พรรคคอมมิวนิสต์ครองบ้านครองเมือง
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เคยรายงานว่า พรรคได้ยึดทรัพย์สินต่างๆ ที่โยงใยเกี่ยวข้องกับโจว ไปแล้วรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาเดียวกันนั้น ญาติๆ ของเขาหลายคนก็ยืนยันว่า น้องชายคนที่ 2 ของเขา และบุตรชายของน้องคนนี้ ได้ถูกจับกุมคุมขัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวน
นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า การสืบสวนสอบสวนที่กำลังดำเนินอยู่นี้ คือรูปแบบหนึ่งของการแก้แค้นทางการเมือง หลังจากที่ โจว เคยทำให้ สี และพวกผู้นำตำแหน่งสูงๆ คนอื่นๆ โกรธเกรี้ยว จากการที่คัดค้านต้านทานไม่ยอมให้ขับอดีตเลขาธิการพรรคสาขามหานครฉงชิ่ง โป๋ ซีไหล ผู้ถูกลงโทษติดคุกตลอดชีวิตตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
จู ฉินตี (Zhu Qindi) ภรรยาของ โจว เสี่ยวฮัว (Zhou Xiaohua) หลานชายของโจว หย่งคัง ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่กำลังถูกนำมาใช้เล่นงานครอบครัวของเธอ ระหว่างที่เธอให้สัมภาษณ์ “วิทยุเอเชียเสรี” ตอนต้นเดือนนี้ โดยระบุว่า ครอบครัวของเธอกำลัง “ถูกระรานหาเรื่อง” โดยคณะบริหารของสี
เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อของทางการจีนได้รายงานถึงเรื่องการสอบสวนที่โยงใยพาดพิงถึงตัวโจว เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ปรากฏรายงานซึ่งไม่มีการยืนยันในเรื่องนี้สะพัดออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (ถึงแม้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการสอบสวนตัวโจวโดยตรงก็ตาม)
หยาง ฟาน (Yang Fan) เป็นผู้รายงานข่าวนี้ให้แก่ภาคภาษาจีนกลาง (Mandarin Service) ของวิทยุเอเชียเสรี โดยที่มี ลุยเซตตา มูดี (Luisetta Mudie) เป็นผู้แปลและเขียนรายงานข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษ
วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต