เอพี/เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โทนี แอ็บบอตต์ ได้กล่าวในวันนี้(12)ว่า ถึงแม้ว่ายังไม่พบสัญญาณใหม่ใต้น้ำภายใน 24 ชม.ที่ผ่านมา แต่การค้นหา MH370 ต้องดำเนินต่อไปอย่างเร่งรีบ เพื่อแข่งกับสัญญาณที่ส่งออกมาจากล่องดำนั้นกำลังจะดับไปอย่างรวดเร็ว
โดยคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย โทนี แอ็บบอตต์ ในวันศุกร์(11)ที่ได้พบกับประธานาธิบดีจีน สี จินผิง ในช่วงเวลาเยือนจีน แอ็บบ็อตย้ำว่า เขามั่นใจว่าสัญญาณที่เรือของออสเตรเลียจับได้นั้นมาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่สูญหายในมหาสมุทรอินเดียใต้
และแอ็บบอตต์ยังคงแสดงความมั่นใจในการให้สัมภาษณ์ในวันนี้(12) และเสริมว่าภารกิจตามหาครั้งนี้นั้นยากมาก “ไม่ควรจะมีใครสบประมาทต่อภารกิจการค้นหา MH370 ที่มีความยากลำบากรออยู่ข้างหน้า “ แอ็บบอตต์กล่าวในวันสุดท้ายของการเยือนจีน และเสริมต่อว่า “ในขณะนี้ทีมสำรวจได้จำกัดพื้นที่การค้นหา แต่พยายามจะตรวจค้นอะไรก็ตามที่อยู่ใต้ผิวมหาสมุทรลึกลงไปราว 4 กม.ครึ่ง และห่างจากฝั่ง 1,000 กม ซึ่งถือเป็นงานยักษ์ และเป็นภารกิจที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะบรรลุผล” แอ็บบอตต์กล่าว
และในขณะเดียวกันในวันเสาร์(12) ทีมค้นหาที่มีทั้งเรือ 14 ลำและเครื่องบิน 10 ลำ ยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไปท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตก และคลื่นสูง 1 ม. เพื่อระดมรวบรวมข้อมูลสัญญาณที่ตรวจจับได้ให้มากที่สุดเในการคำนวณหาจุดตกของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส โดยในวันนี้(12) หน่วยงานความร่วมมือการค้นหาที่มีออสเตรเลียเป็นผู้นำ (JACC )ได้เปิดเผยว่า ในพื้นที่ห่างไกลที่คาดว่า MH370 ตกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้กำหนดขอบเขตการค้นหาให้เล็กลง
“ในวันนี้เรือสัญชาติออสเตรเลียโอเชียนชิลด์ที่พ่วงอุปกรณ์ค้นหากล่องดำของกองทัพเรือสหรัฐฯยังคงเดินหน้าตามหาสัญญาณในพื้นที่เป้าหมาย” JACC กล่าว
ที่ผ่านมาเรือโอเชียนชิลด์สามารถจับสัญญาณที่คาดว่ามีความเชื่อมโยงกับ MH370ได้ถึง 4 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก สัญญาณได้รับการยืนยันว่าเหมือนสัญญาณที่ส่งออกมาจากกล่องดำของ MH370
นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณในการค้นหาวันเสาร์(12)นั้นมีพื้นที่ราว 41,393 ตรกม. และบริเวณแกนกลางการค้นหาทอดยาวร่วม 2,330 กม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเพิร์ธ ออสเตรเลีย
“ทางทีมงานพยายามลดพื้นที่การค้นหาใต้น้ำให้แคบลงสำหรับการใช้โดรนใต้น้ำเข้าสำรวจต่อไป” และ JACC ยังกล่าวต่อว่า “จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้ว 24 ชม. ยังไม่พบสัญญาณใหม่แต่อย่างใด และยังไม่พบซากใดๆที่มาจากเครื่องบินที่สูญหาย”