xs
xsm
sm
md
lg

เรือออสซีพบสัญญาณใต้น้ำอีก 2 ชุด ทีมค้นหา MH370 มั่นใจ “ไม่กี่วันมีข่าวดี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online





เอเจนซีส์ - ทีมค้นหาเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไป สามารถตรวจจับสัญญาณจากใต้น้ำอีก 2 ชุด เพิ่มความหวังในการพบซากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ภายในไม่กี่วันข้างหน้า ถึงแม้คาดหมายกันว่าแบตเตอรีกล่องดำของเครื่องบินซึ่งน่าจะจมอยู่ใต้มหาสมุทรอินเดีย กำลังหมดพลังลงเต็มทีแล้ว

เรือโอเชียน ชิลด์ ของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ตรวจพบสัญญาณอีก 2 ชุดเมื่อวันอังคาร (8 เม.ย.) ซึ่งตรงกันกับสัญญาณที่เคยตรวจจับได้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับการวิเคราะห์ว่าสอดคล้องกับสัญญาณจาก “กล่องดำ” หรือเครื่องบันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบิน

พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน อดีตผู้บัญชาการทหารของออสเตรเลียและหัวหน้าศูนย์ประสานงานการค้นหาเที่ยวบิน MH370 แถลงเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) ว่าเรือโอเชียน ชิลด์ ตรวจพบสัญญาณจากใต้น้ำอีก 2 ชุดดังกล่าวในช่วงบ่ายและคืนวันอังคาร รวมแล้วเรือลำนี้ตรวจพบสัญญาณที่น่าจะมาจากกล่องดำ 4 ชุด ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญในการค้นหาจุดตกของเที่ยวบินของมาเลเซียที่หายไปตั้งแต่วันที่ 8 เดือนที่แล้ว พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ระหว่างบินอยู่ในเส้นทางจากกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่ปักกิ่ง
ทีมค้นหาเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไป สามารถตรวจจับสัญญาณจากใต้น้ำอีก 2 ชุด เพิ่มความหวังในการพบซากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ภายในไม่กี่วันข้างหน้า
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ต่างกลัวว่า จะไม่สามารถตรวจพบสัญญาณอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อแบตเตอรีของกล่องดำกำลังจะหมดพลังงานลง เนื่องจากมีอายุใช้งานปกติเพียง 30 วันโดยประมาณ

สัญญาณที่พบ 2 ชุดล่าสุดนี้ ตรวจจับได้เป็นระยะเวลา 5 นาที 32 วินาที และ 7 นาทีตามลำดับ โดยพบอยู่ในบริเวณเดียวกับที่เจอสัญญาณ 2 ชุดก่อนหน้านี้

ฮุสตันบอกว่า สัญญาณที่พบล่าสุดจะช่วยให้สามารถกำหนดพื้นที่ท้องมหาสมุทรซึ่งจะต้องทำการค้นหาให้แคบลงอีก อันจะทำให้สามารถบริหารจัดการได้มากขึ้น “ผมเชื่อว่า เรากำลังค้นหาถูกที่แล้ว แต่จำเป็นต้องพบชิ้นส่วนเครื่องบินก่อนจึงจะยืนยันได้ว่า นี่คือตำแหน่งแห่งหนสุดท้ายของ MH370” เขากล่าว

“การตรวจพบสัญญาณหลายครั้ง จะทำให้เรามีพื้นที่ค้นหาขนาดเล็กและหวังว่า จะพบบางสิ่งบางอย่างใต้ทะเลที่อาจยืนยันว่า นี่คือตำแหน่งแห่งหนสุดท้ายของ MH370 ภายในไม่กี่วันนี้”

ทางด้านนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญต่างแสดงความเห็นสนับสนุนความหวังของฮุสตันเป็นอย่างดี เป็นต้นว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับในเวลานี้ สามารถระบุได้ว่า เรือโอเชียน ชิลด์ ซึ่งลากจูง “อุปกรณ์ระบุตำแหน่งกล่องดำ” (ทีพีแอล) อันทันสมัยไฮเทคของกองทัพเรือสหรัฐฯนั้น ตรวจพบสัญญาณที่ชัดเจนมากที่ย่านความถี่ 33.331 กิโลเฮิรตซ์ โดยมีการส่งสัญญาณทุกๆ 1.103 วินาที แบบแผนของสัญญาณเช่นนี้น่าเชื่อว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งกำเนิดธรรมชาติ แต่มาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้สัญญาณที่พบยังสอดคล้องกับข้อมูลจำเพาะของสัญญาณซึ่งจากกล่องดำของเครื่องบินทั้งหลาย

กระนั้นก็ตาม ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางราย เป็นต้นว่า นาวาเอกมาร์ก แมทธิวส์จากกองทัพเรือสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ตรวจจับสัญญาณเสียงได้ในระยะทางที่ห่างกัน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า สัญญาณเสียงเหล่านั้นอาจไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกัน

ในวันพุธ ยังคงมีเครื่องบินทหาร 11 ลำ เครื่องบินพลเรือน 4 ลำ และเรือ 14 ลำ ร่วมกันออกปฏิบัติการค้นหาภายในพื้นที่ 75,423 ตารางกิโลเมตร โดยจุดโฟกัสอยู่ห่างจากเมืองเพิร์ท รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 2,260 กิโลเมตร

เรือลำอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้โอเชียน ชิลด์ ซึ่งต้องทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เงียบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล AP-3C โอไรออน รุ่นดัดแปลงของกองทัพอากาศแดนจิงโจ้ลำหนึ่งกำลังปล่อยร่มติดทุ่นลอยโซนาร์ ลงไปบริเวณข้างเคียงรอบๆ พื้นที่ค้นของของเรือออสเตรเลียลำนี้ ทุ่นเหล่านี้ซึ่งจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ผูกติดกับ “ไฮโดรโฟน” หรือไมโครโฟนใต้น้ำ ซึ่งอยู่ข้างใต้ลงไปประมาณ 300 เมตร ทั้งนี้คาดหวังกันว่าไฮโดรโฟนเหล่านี้จะสามารถจับสัญญาณอะไรได้เพิ่มเติมขึ้นอีก ทว่าพวกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็เตือนว่า การดำเนินการนี้อาจมีอุปสรรคจากชั้นโคลนหนาก้นทะเล

ฮุสตันยังบอกอีกว่า อาจส่งยานดำน้ำไร้คนขับ “บลูฟิน-21” ลงสำรวจใต้ทะเลในเร็วๆ นี้ เนื่องจากสัญญาณเสียงที่ตรวจพบล่าสุดอ่อนมาก บ่งชี้ว่า พลังงานแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว

การสูญหายของ MH370 สร้างความพิศวงต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน รวมทั้งสร้างความสับสนเศร้าสร้อยให้แก่ญาติผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าว ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นชาวจีน

ถึงแม้จนถึงเวลานี้ยังไม่พบซากชิ้นส่วนใดๆ เลย แต่ฮุสตันยืนยันว่านอกจากการตรวจจับสัญญาณกล่องดำแล้ว การค้นหาบริเวณผิวน้ำก็ควรต้องดำเนินต่อไป และยังคงแสดงความเชื่อมั่นแม้มีความท้าทายอย่างมากในการค้นหาซากเครื่องบิน ที่อาจจมอยู่ใต้มหาสมุทรที่ลึกถึง 4,500 เมตร

“ผมมองแง่ดีว่า เราจะพบเครื่องบินหรือสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของเครื่องบินลำนี้ในอนาคตอันไม่ไกลนัก”
กำลังโหลดความคิดเห็น