เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการค้นหาเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปนานกว่า 1 เดือนเปิดเผยวันนี้ (9 เม.ย.) ว่าตรวจพบสัญญาณใหม่อีก 2 ครั้ง ซึ่งจุดประกายให้เกิดความหวังว่าจะพบซากเครื่องบินโดยสารลำนี้ในเร็ววัน
หัวหน้าทีมค้นหาผู้นี้ระบุว่า เมื่อวันอังคาร (8) เรือ “โอเชียน ชิลด์” ของออสเตรเลียสามารถตรวจจับสัญญาณใหม่ได้อีก 2 ครั้งซึ่งสัมพันธ์กับสัญญาณคู่หนึ่งซึ่งตรวจพบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลวิเคราะห์ชี้ว่าสัญญาณดังกล่าวมีลักษณะสอดคล้องกับการส่งสัญญาณระบุตำแหน่งของกล่องดำของเครื่องบิน
แองกัส ฮุสตัน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานร่วมระหว่างหน่วยงานของออสเตรเลีย (เจเอซีซี) กล่าวว่า “โอเชียน ชิลด์สามารถจับสัญญาณใหม่ ได้อีก 2 ครั้ง คือในช่วงบ่ายคล้อยวานนี้ (8) และเมื่อคืนที่ผ่านมา”
ในเวลานี้ เรือของแดนจิงโจ้ลำนี้สามารถตรวจจับสัญญาณได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญ ในเวลาที่ทีมค้นหาพยายามหาตำแหน่งที่แน่ชัดของจุดที่เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้ตกพร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 239 ชีวิต หลังขาดการติดต่อกับหน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศเมื่อวันที่ 8 มีนาคม
เจ้าหน้าที่ต่างหวั่นเกรงกันว่า อาจไม่พบสัญญาณที่ตรวจจับได้ก่อนหน้านี้อีก เนื่องจากแบตเตอรีของตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งกล่องดำมีอายุการใช้งานประมาณ 30 วันเท่านั้น
ฮุสตันกล่าวว่า สัญญาณใหม่ ซึ่งตรวจพบในบริเวณเดียวกันกับที่มีการตรวจพบสัญญาณ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ กินเวลานาน 5 นาที 32 วินาที และราว 7 นาทีตามลำดับ
ฮุสตันชี้ว่า “สัญญาณที่ตรวจพบวานนี้ (8) จะช่วยให้เราสามารถจำกัดวงแคบพื้นที่ค้นหา และสามารถควบคุมจัดการการค้นหาบริเวณก้นบึ้งมหาสมุทรได้ดีขึ้น”
“ผมเชื่อว่าเราค้นหาถูกที่แล้ว แต่จำเป็นต้องพบหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเสียก่อน จึงจะสามารถยืนยันได้ว่าพื้นที่นี้เป็นจุดที่เที่ยวบิน MH370 ตกลงไปแน่นอน”
นอกจากนี้ ฮุสตันยังกระตุ้นเตือนให้ใช้ความระมัดในการนำเสนอข้อมูลใดๆ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เพื่อเห็นแก่ครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 239 ชีวิตบนเที่ยวบินปริศนาซึ่งหายสาบสูญไประหว่างมุ่งหน้าออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่าจะเดินหน้าค้นหาสัญญาณใหม่ๆ กันต่อไป
ฮุสตันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เราคาดหวังว่า การจับสัญญาณกล่องดำได้หลายครั้งเช่นนี้จะช่วยนำเราไปสู่พื้นที่ค้นหาที่แน่ชัดและแคบลง ทั้งยังหวังด้วยว่า ในอีกไม่กี่วันเราจะพบเบาะแสบางอย่างใต้ก้นบึ้งมหาสมุทร ที่จะยืนยันว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่เที่ยวบิน MH370 ตกลงไป”