ตร.ชี้ “เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์” เหยื่อบึ้มสถานทูตกรุงปราก ดับเพราะระเบิด “ซุกซ่อนในหนังสือ”

รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์เช็กรายงานโดยอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ จามัล อัล-จามัล เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำกรุงปราก ซึ่งเสียชีวิตในเหตุระเบิดเมื่อเดือนมกราคม จะถูกสังหารโดยระเบิดพลาสติก “เซมเท็กซ์” ของสาธารณเช็กที่มีอายุเก่าเก็บหลายทศวรรษ และซุกซ่อนอยู่ภายในหนังสือ

แหล่งข่าวรายนี้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์รายวัน “มลาดา ฟรอนตา ดีเนส” ว่าตำรวจได้สันนิษฐานว่า อัล-จามัล ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่เขาบังเอิญเปิดหนังสือ ซึ่งมีระเบิดฝังอยู่มาแล้วหลายปีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

หนังสือพิมพ์เจ้านี้รายงานคำพูดของแหล่งข่าวที่ว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุบนความโชคร้าย เนื่องจากเอกอัครราชทูตผู้นี้เป็นคนมีระเบียบจึงต้องการจัดของให้เข้าที่เข้าทาง และในหมู่ข้าวของเครื่องใช้เหล่านั้นก็มีหนังสือ 2 เล่มที่ฝังระเบิดไว้ภายใน”

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้ขยายความว่า เหตุใดหนังสือเล่มนั้นจึงไปอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงปราก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเช็กชี้ว่า อัล-จามัล อาจถูกปลิดชีพเพราะระเบิดที่ใช้ป้องกันตู้เซฟเก่า

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ซึ่งสอบสวนเหตุระเบิดยังตรวจพบวัตถุระเบิด และอาวุธปืนโบราณสมัยสงครามเย็นที่สถานเอกอัครราชทูตแห่งนี้ด้วย

ปาเลสไตน์ชี้แจงว่า อาวุธเหล่านั้นเป็นของกำนัลจากเจ้าหน้าที่เชโกสโลวาเกียซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับ “องค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์” (พีแอลโอ) ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดี ยัสเซอร์ อาราฟัต ของปาเลสไตน์ซึ่งล่วงลับไปแล้ว

โฆษกหญิงของกรมตำรวจชี้แจงวันนี้ (8) ว่า เธอไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวการสอบสวนได้ ขณะที่โฆษกของสถานเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ก็ยังไม่สะดวกที่จะตอบคำถามใดๆ

เหตุระเบิดครั้งนี้ปะทุขึ้น ขณะกำลังมีการย้ายสถานเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ และทำเนียบที่พักออกจากเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก โดยอัล-จามัล เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวที่โรงพยาบาล

แหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจรายนี้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า “เรากำลังรอฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่ง แต่ระเบิดลูกนี้เป็นระเบิดเซมเท็กซ์แน่นอน 99.9 เปอร์เซ็นต์ โดยน่าจะผลิตขึ้นราวทศวรรษ 1970 และมีอายุเก่าแก่อย่างน้อย 30 ปี”

ทั้งนี้ ระเบิดเซ็มเท็กซ์ ซึ่งผลิตโดยบริษัท “เอ็กซ์โพลเซีย” ของสาธารณรัฐเช็กตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 และสามารถส่งออกได้เป็นจำนวนมากในยุคสงครามเย็น เคยถูกนำมาใช้ก่อเหตุโจมตีเที่ยวบิน 103 ของสายการบินแพนแอม ขณะบินเหนือเมืองล็อกเกอร์บี ของสกอตแลนด์เมื่อปี 1988 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 27 ราย